เมื่อกล่าวถึงเรื่องของ ‘ช่วงระยะชัด’ หลายคนอาจคิดไปถึงปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างการเพิ่มหรือลดขนาดของรูรับแสงก็น่าจะพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงยังมีเรื่องต่างๆที่ส่งผลต่อระยะชัดอยู่มากมายเต็มไปหมด จะมีอะไรบ้างผู้สอนจะนำมาอธิบายให้ทราบกันครับ
‘ช่วงระยะชัด’ (Depth of Field) คือ ช่วงของความคมชัดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่จุดคมชัดที่ใกล้ตามากที่สุดไปจนถึงจุดคมชัดที่ไกลตามากที่สุด ปรากฏการณ์ดังกล่าวคล้ายๆกับการมองเห็นด้วยดวงตาของมนุษย์ที่จะคมชัดในจุดที่เรากำลังโฟกัสเท่านั้น นอกเหนือสิ่งที่สนใจก็จะมีการเบลอนั่นเอง
แต่ว่ากล้องถ่ายภาพดิจิตอลสามารถทำในสิ่งที่หลากหลายกว่าด้วยการปรับแต่งค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนไปใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสที่มากขึ้นเพื่อปรับมุมรับภาพ, เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างขึ้นหรือกล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาดต่างๆ รวมไปถึงระยะทางของวัตถุที่โฟกัสและอื่นๆ อย่างไรก็ดีด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างพอสังเขปให้ทราบว่าระยะชัดมีความหมายว่าอย่างไรและอธิบายได้อย่างไรในสถานการณ์จริง
เมื่อเราโฟกัสไปยังวัตถุจะเกิดอาณาบริเวณของความคมชัดที่แผ่ขยายออกมาทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง การควบคุมช่วงระยะอย่างถูกต้องเหมาะสมช่วยให้เกิดความแม่นยำในการให้ความสนใจกับภาพ ท้ายที่สุดแล้วก็จะนำไปสู่การเล่าเรื่องที่ดี
การเลือกใช้ค่ารูรับแสงที่กว้าง (ค่า f-stop ที่มีค่าน้อย) จะให้ช่วงระยะชัดที่ค่อนข้างตื้นหรือบาง ในขณะที่การเลือกใช้ค่ารูรับแสงที่แคบกว่า (ค่า f-stop ที่มีค่ามาก) จะให้ช่วงระยะชัดที่มีความหนาหรือลึกมากขึ้น
ช่วงระยะชัดที่มีผลมาจากการเลือกใช้รูรับแสง
ตัวแปรที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ระยะทางจากจุดบันทึก’ ระหว่างกล้องและวัตถุโดยที่ยิ่งมีระยะสั้นลงเท่าไรช่วงระยะชัดก็จะยิ่งบางและตื้นขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายวัตถุที่ใกล้ตามากๆจะยิ่งโฟกัสด้วยค่ารูรับแสงกว้างๆยากมากขึ้นไปด้วยแต่ถ้าลองถอยออกมาเรื่อยๆจะพบว่าช่วงระยะชัดนั้นเพิ่มขึ้น
ต่อให้ใช้รูรับแสงที่หรี่มากๆ แต่ถ้าระยะบันทึกใกล้วัตถุสูงยังไงก็สร้างระยะชัดลึกได้ยาก
ที่มา : pixabay
‘เราไม่มีทางที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์เพื่อให้เห็นว่าดวงใหญ่ขึ้นได้เลย เว้นเสียแต่ว่าจะใช้เลนส์ซูมเข้าไปหา’ คือคำกล่าวหนึ่งที่แสดงให้เห็นประโยชน์ของการใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้นเพื่อดึงสิ่งที่อยู่ไกลให้ใกล้ตาเข้ามา (แม้ว่าในความเป็นจริงคือเรื่องของมุมรับภาพที่แคบลงก็ตามที) ทางยาวโฟกัสของเลนส์เกี่ยวข้องกับมุมรับภาพที่จะได้โดยตรง เลนส์มุมกว้างมีทางยาวโฟกัสต่ำจะให้ค่าช่วงระยะชัดที่ลึกกว่าเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสูงกว่าซึ่งจะให้ช่วงระยะชัดที่ตื้นกว่า
จำไว้ว่าทางยาวโฟกัสเองไม่ได้ถูกระบุว่ามีอิทธิพลต่อช่วงระยะชัดมากนัก นอกจากนี้การดึงฉากหลังเข้ามามากๆของเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสูงมีผลทำให้สิ่งที่อยู่ไกลออกไปเมื่อถูกดึงเข้ามาใกล้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ลองนึกภาพของการรับแสงด้วยเลนส์มุมกว้างซึ่งมีมุมรับภาพกว้างและเลนส์ทางยาวโฟกัสสูงอย่างเลนส์เทเลจะมีมุมรับภาพแคบลง ซึ่งเมื่อมุมรับภาพแคบลงรังสีแสงแทบจะเดินทางใกล้รูปแบบเส้นขนานกัน กล่าวได้ว่าแสงต้องเดินทางให้มากพอที่จะหลุดโฟกัสทำให้เกิดช่วงระยะชัดที่สั้นกว่า เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมากๆจึงถูกนำมาใช้กับการถ่ายภาพบุคคลได้ดีเพราะเลนส์จะช่วยละลายสิ่งที่รบกวนสายตาอื่นๆให้มีความน่าสนใจน้อยลงซึ่งเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสต่ำๆจะเหมือนกับให้ความสนใจทุกสิ่งด้วยความคมชัดนั่นเอง
ต่อให้ใช้รูรับแสงที่หรี่มากๆ แต่ถ้าระยะบันทึกใกล้วัตถุสูงยังไงก็สร้างระยะชัดลึกได้ยาก
ที่มา : pixabay
ขนาดของเซ็นเซอร์ที่ใช้ก็มีผลต่อช่วงระยะชัดด้วยเช่นกันโดยที่เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าจะให้ช่วงระยะชัดที่ตื้นกว่าเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า ดังนั้นการจะเปรียบเทียบกับกล้องที่มีเซ็นเซอร์ต่างขนาดจึงต้องเทียบตัวแปรค่าคงตัวต่างๆวุ่นวายไปหมด
จำง่ายๆว่าถ้าเราล็อกตัวแปรทุกอย่างเท่ากัน เช่นเลนส์ทางยาวโฟกัสเดียวกัน ค่ารูรับแสงเท่ากันกล้องที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่จะละลายได้ดีกว่า
ขนาดของเซ็นเซอร์นั้นมีผลต่อช่วงระยะชัด
ตอบว่า ‘จำเป็น’ และ ‘ไม่จำเป็น’ อย่างในบทความนี้ผู้สอนก็พยายามยุ่งกับตัวเลขให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ โดยเน้นไปยังพื้นฐานความเข้าใจโดยสรุปของแต่ละปัจจัยให้ทราบว่าอะไรที่จะส่งผลต่อช่วงระยะชัดบ้างถึงการคำนวนเองจะสำคัญแต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ก็ช่วยให้เราตรวจสอบได้ว่าชัดประมาณไหนโดยการกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งทำให้มองเห็นช่วงของระยะชัดในจอทันทีลดภาระที่ยุ่งยากออกไปได้เยอะ อีกอย่างกล้องไร้กระจกที่ออกใหม่ในปัจจุบันก็มีคุณสมบัติดังกล่าวทั้งหมดทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็วและถ่ายภาพได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นโดยตัดความยุ่งยากในการคำนวนออกไป
ช่วงระยะชัดของภาพอันมีผลมาจากตัวแปรทั้งหมดที่กล่าวนั้นเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย การมีช่วงระยะชัดที่บางเกินไปทำให้เราสูญเสียโอกาสที่ไม่ควรจะเสียเช่นเนื้อหาของภาพในส่วนที่ควรชัดกลับไม่ชัดเท่าที่ควร ส่วนช่วงระยะที่ลึกมากเกินไปก็ทำให้มิติของภาพไม่น่าสนใจ สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเล่าเรื่องโดยการใช้ช่วงระยะเป็นตัวชี้นำต่างหากเพราะมันคือการเพ่งความสนใจให้กับเนื้อหาสาระในภาพ
ดังนั้น ตัวคนถ่ายคือความสำคัญสูงสุดว่าจะควบคุมได้ดีแค่ไหน