ผู้ถ่ายภาพหน้าใหม่จำนวนมากเริ่มให้ความสนใจในช่องทางการหารายได้จากภาพที่ตัวเองมีอยู่เพื่อเสนอขายในรูปแบบลิขสิทธิ์ให้กับเว็บไซต์ตัวกลาง แต่ปัญหาที่พบไม่น้อยไปกว่าจำนวนคนเหล่านี้ก็คือคำปฏิเสธอันเนื่องมาจากกฏระเบียบการรักษามาตรฐานคุณภาพที่ส่งขาย บทความนี้จึงถูกเขียนมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาและวิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าทำไมจึงถูกปฏิเสธ และเสนอแนวทางเพื่อปรับปรุงงานให้ดียิ่งขึ้นก่อนส่งไปตรวจครับ
ปัญหาของการส่งภาพไปแล้วไม่ผ่าน มีสองกลุ่มใหญ่ๆด้วยกัน กล่าวคือ ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากภาพโดยตรง และ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำผิดกฏข้อปฏิบัติเรื่องข้อมูลความถูกต้อง เราจะกล่าวกันโดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็นแรก ซึ่งสอดคล้องเนื้อหาที่คุณจะได้พบจากเราโดยตรง
สาเหตุอันเนื่องมาจากภาพที่ทำให้สอบหรือส่งภาพขายไม่ผ่าน พร้อมวิธีการแก้ไข
1. มีคลื่นสัญญาณรบกวนในภาพเยอะมากเกินไป
คลื่นสัญญาณรบกวน หรือนอยซ์ (Noise) คือเหตุผลแรกๆที่ทำให้คุณสอบภาพหรือส่งขายไม่ผ่าน สาเหตุของการเกิดปัญหานี้เนื่องมาจากการเลือกใช้ค่าความไวแสงที่สูงหรือเปิดม่านชัตเตอร์เพื่อบันทึกภาพนาน ภาพที่ได้จึงไม่มีคุณภาพมากพอจนทางผู้ตรวจจะยอมรับได้ ทำให้ภาพถูกปัดตกลงไป
นอยซ์ประเภทสี (Chroma Noise) มีลักษณะเป็นพิกเซล แดง-เขียว-น้ำเงิน
ปะปนอยู่ในรายละเอียดของภาพ
วิธีการแก้ไขและป้องกัน : ทางเลือกที่ดีที่สุดคือไม่ต้องให้มันเกิดขึ้นมาเลยด้วยการใช้ค่าความไวแสงต่ำลง และถ้าความเร็วชัตเตอร์ต่ำลงมากจนไม่สามารถถือได้ด้วยมือเปล่าก็ให้ใช้ขาตั้งกล้อง กรณีของการแก้ไขตกแต่งภาพเมื่อมีปัญหาในภาพขึ้นมาแล้วก็สามารถใช้ซอฟท์แวร์ตกแต่งแก้ไขได้ ยกตัวอย่างเช่นปลั๊กอิน DFine จาก Nik Collection by DxO เพื่อการกำจัดคลื่นสัญญาณรบกวนโดยเฉพาะ
การใช้งานความไวแสง ความรู้ขั้นพื้นฐานที่มีสอนในหลักสูตร
“หลักการถ่ายภาพพื้นฐาน” จาก DozzDIY ช่วยในตรงนี้ได้นะ
พึงระวังการลดนอยซ์ที่มากเกินไปเพราะจะทำให้ภาพเบลอ ซึ่งเป็นสาเหตุการปฏิเสธภาพในหัวข้อที่สอง
2. ความคมชัดไม่ถูกต้อง
ความคมชัดไม่ถูกต้อง มีความหมายที่เป็นไปได้ทั้งภาพที่เบลอจากการสั่นไหวเนื่องจากความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำเกินไป หรือการเร่งความคมชัดมากหรือน้อยเกินไป ทำให้ความเปรียบต่างที่บริเวณขอบสีใดๆในภาพมากหรือน้อยกว่าคำว่าพอดี
ยังไม่มีการปรับคม
ปรับคมได้พอดี (Radius 0.2-1)
ปรับคมมากเกินไป (Radius > 1.5)
วิธีการแก้ไขและป้องกัน : ถ้าภาพไม่ชัดเพราะความสั่นไหวให้ใช้ขาตั้ง ส่วนความคมชัดที่เกิดจากการปรับให้ใช้การขยายภาพแบบ 100% แล้วดูค่ารัศมีในการปรับคม (Radius) ที่มักขึ้นอยู่กับขนาดภาพ เช่นภาพที่มีขนาดใหญ่ รัศมีขอบภาพก็ต้องมากกว่าภาพขนาดเล็กจึงจะครอบคลุม ให้ระวังการเกิดแสงหลอนที่ขอบภาพด้วยเป็นสำคัญ
3. ระยะชัดไม่ครอบคลุม
ระยะชัดไม่ครอบคลุมมีสาเหตุมาจากการเลือกใช้ค่ารูรับแสงที่ไม่ถูกต้องและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอารมณ์ของภาพที่คลาดเคลื่อน เช่น ผู้บันทึกคิดว่าการใช้รูรับแสงที่กว้างตลอดไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทำให้ติดเป็นความเคยชินจนกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพถูกปฏิเสธในที่สุด
ขอให้ระวังเรื่องความคมชัดของจุดสนใจให้ดี
วิธีแก้ไขและป้องกัน : กรณีภาพถ่ายทั่วไปควรตรวจสอบตลอดเวลาว่ารูรับแสงที่ใช้มีระยะชัดครอบคลุมวัตถุหรือสิ่งที่ต้องการนำเสนอหรือยัง นึกถึงวัตถุประสงค์ของคนที่ซื้อภาพไปใช้เป็นหลักว่าถ้าเกิดเขาจะเอาไปตัดใช้ขึ้นมาความคมชัดที่ไปไม่ถึงจะกลายเป็นปัญหาหรือไม่ สำหรับกรณีภาพถ่ายมาโครอาจจะต้องใช้เทคนิคผสานความชัดภาพในช่วงต่างๆด้วยโปรแกรม
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับรูรับแสง
4. ใช้การตกแต่งภาพถ่ายมากเกินไป
รสนิยมในการตกแต่งภาพถ่ายของคนแต่ละคนค่อยๆแปรเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา แต่กฏก็ยังเป็นกฏ เท่าที่เคยทำมามีแหล่งเผยแพร่ภาพถ่ายหลายๆที่ไม่ได้ซีเรียสกับการทำสีให้ภาพถ่าย แต่มักจะไปเอาจริงตรงความมากเกินไปของสีที่เกิดจากฮิสโตแกรมของภาพมากว่า ตรงนี้เหมือนจะต้องอธิบายกันยาวถ้าจะเล่นเรื่องโทนสี แต่ถ้าจะเน้นปลอดภัยในการส่งภาพก็ขอให้เน้นความสมจริงเป็นหลัก
Reject กันแบบไม่ต้องสงสัย ทำภาพแบบนี้
วิธีการแก้ไขและป้องกัน : ศึกษาฮิสโตแกรมของภาพถ่าย, สเกลน้ำหนักหรือเส้นเคิร์ฟ และสมดุลแสงขาวไว้ให้ดีๆ
5. มีใบหน้าคนหรือโลโก้แบรนด์ปรากฏในภาพอย่างชัดเจน
เหตุผลเรื่องของลิขสิทธิ์นั่นเอง แม้แต่หน้าคนที่ชัดหากตัวแบบไม่มีการเซ็นต์ใบยินยอมก็ทำให้ภาพไม่ผ่านได้แล้ว ควรระวังเรื่องสิ่งที่จะทำให้ภาพไม่ผ่านให้ดีๆ พวกโลโก้สินค้า, ลายน้ำ และอื่นๆ
ระบุตัวบุคคลไม่ได้แบบนี้จึงจะมีเกณฑ์ผ่านนะครับ
วิธีแก้ไขและป้องกัน : เลี่ยง หรือ ลบด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพถ่าย ยกตัวอย่างเช่น Spot Healing Brush ใน Lightroom Classic หรือโหมด Content-Aware ใน Photoshop CC
6. รีทัชไม่เนียน
การรีทัชไม่เนียนเป็นปัญหาด้านทักษะการใช้โปรแกรมตกแต่งภาพถ่ายทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น หรืออาจเกิดจากการขาดความละเอียดในการตรวจสอบก็ได้ และถ้าเป็นแบบนี้ก็จะทำให้ภาพไม่ผ่านได้เช่นกัน
แทนที่จะขจัดปัญหากลายเป็นปัญหาขึ้นมาเองเสียแบบนั้น
วิธีแก้ไขและป้องกัน : ศึกษาเครื่องมือ ข้อดี–ข้อเสีย ของเครื่องมือให้ดีเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเมื่อจำเป็นต้องใช้ และตรวจสอบความเรียบร้อยทุกครั้ง
7. แสงแย่มากเกินไป
แสงแย่ จัดเป็นปัญหาที่อยู่ในกลุ่มประเภท ‘ค่าการรับแสง’ (Exposure) ของการบันทึกภาพจากกล้อง ซึ่งนั่นหมายถึงว่าจะต้องมีตัวแปรบางอย่างผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็น ค่ารูรับแสง,ความเร็วชัตเตอร์ และความไวแสง รวมไปถึงตัวแปรยิบย่อยเช่น การชดเชยแสงที่มากหรือน้อยเกินไป ทำให้ภาพนั้นดูแย่ลงในที่สุด กรณีดังกล่าวสะท้อนถึงพื้นฐานการถ่ายภาพที่ไม่ดีของผู้บันทึกอีกด้วย
มีแววนะภาพนี้…. มีแววไม่ผ่านสูงมากเลยล่ะ
วิธีแก้ไขและป้องกัน : ตรวจสอบผลลัพธ์ทางอ้อมที่มาจากแสงกับค่าตัวแปรคาดไม่ถึงต่างๆ เช่น สมดุลแสงขาว และบริเวณเงาของภาพที่มืดจนไม่มีรายละเอียด ศึกษาฮิสโตแกรมและความสัมพันธ์ของสามตัวแปรในการรับแสงเพื่อการถ่ายภาพดิจิตอลให้ดี
แสงแย่ เกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจในการถ่ายภาพอย่างแท้จริง
ควรปรับปรุงเรื่องความรู้พื้นฐานในการถ่ายภาพโดยด่วน
8. ความด่างสีที่เกิดจากคุณภาพของไฟล์ JPEG
ถ้าเทียบภาพ JPEG กับภาพนามสกุล RAW ที่บันทึกได้จากกล้อง ความละเอียดในการไล่สีของ JPEG นั้นน้อยลงอย่างมากจนเทียบ RAW ไม่ติด แถมคุณภาพไฟล์ยังลดลงเรื่อยยิ่งแก้ไขตกแต่งแล้วเซฟทับอย่างต่อเนื่อง จะเกิดปรากฏการไล่สีที่ไม่เนียนเรียกง่ายๆว่าสีแตกออกเป็นเหลี่ยมๆนั่นเอง และนั่นก็เป็นผลให้ถูกปฏิเสธภาพเวลาส่งขายจ้า
โชคดีภาพนี้ยังสังเกตง่าย หมั่นสังเกตส่วนไล่โทนภาพดูนะครับ
วิธีแก้ไขและป้องกัน : ไม่มีวิธีแก้ไข บอกได้แค่ว่าเลือกบันทึกไฟล์ที่คุณภาพสูงสุดทุกครั้งและอย่าเผลอไปปรับแต่งหรือดึงค่าการรับแสงในส่วนการตกแต่งภาพถ่ายมากจนเกินไป ถ่ายมาให้ดีตั้งแต่ต้นนั้นดีที่สุด
9. ฝุ่นและข้อบกพร่องของเลนส์
ฝุ่นและข้อบกพร่องของเลนส์บางทีก็เป็นเรื่องสุดวิสัย กรณีนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณได้รับการอนุโลมจากเว็บขายภาพเวลาส่งตรวจเสียด้วย ถ้าโดนขึ้นมาก็คงเป็นเพราะเราไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อนส่งไปนั่นเอง เป็นเรื่องที่ต้องใช้การตรวจสอบว่าข้อบกพร่องเหล่านี้เริ่มเด่นชัดจนกลายเป็นปัญหาหรือยัง
ตรวจสอบเลนส์ของท่านให้ดีทุกครั้งว่าจะไม่สร้างปัญหาในภาพถ่ายภายหลัง
วิธีแก้ไขและป้องกัน : ส่งเลนส์ไปล้างหรือซื้อเลนส์ใหม่ที่ดีขึ้น มันก็ยากกว่าการมาลบออกแล้วส่งไปจากนั้นก็ผ่าน ควรจะเรียนทักษะในการรีทัชจุดบกพร่องพวกนี้ให้ดี เช่น เครื่องมือแก้ไขอาการคลาดสีใน Lightroom Classic หรือ Photoshop แล้วก็เครื่องมือที่ใช้ง่ายมากๆอย่าง Spot Healing Brush
หมายเหตุ : หลักสูตร “หลักการถ่ายภาพพื้นฐาน” (Basic Photography : Newbie QuickStart) จาก DozzDIY เปิดให้ซื้อเรียนได้แล้วในราคา 1,490 บาท รูปแบบคลิปวิดีโอ 4K ดิจิตอลดาวน์โหลด สนใจติดต่อทาง LineID : ‘@DozzDIY’ หรือทางข้อความเพจ DozzDIY โดยตรง ตั้งแต่เวลา 6:00 – 22:00 น.