นับตั้งแต่ผู้สอนเริ่มหัดถ่ายภาพครั้งแรก
ช่วงเวลานั้น..
..องค์ความรู้ทางทฤษฎีไม่มีเลย
เรียกว่าเป็น 0 ในการถ่ายภาพ
สิ่งที่ต้องทำให้ได้เมื่อเริ่มถ่ายภาพ
ก็คือทำยังไง
..ให้แสงของภาพเป็นไปตามที่ใจเราต้องการ
แสงตามที่ใจเราต้องการนี่
…ไม่ใช่แสงที่ถูกต้องนะ
เพราะสิทธิ์ที่จะทำให้ภาพสว่างหรือมืดกว่าความจริง
เป็นความเห็นของคนถ่าย
แถมกล้องถ่ายภาพดิจิตอลเอง
ก็ไม่ได้มองโลกเหมือนกับเราไปเสียทีเดียว
…
การเรียนระบบของการถ่ายภาพนั้น
สำหรับผู้สอน
..แยกออกเป็นสองส่วนหลักๆ
สองส่วน
…ที่ทำให้คนธรรมดาๆ
…กลายมาเป็นผู้สอนในเวลา 3 ปี…
สิ่งแรก
คือความเข้าใจในอุปกรณ์
เข้าใจระบบการทำงานของสิ่งที่ตัวเองใช้
ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
เช่น ปุ่มควบคุมรูรับแสง
..อยู่ตรงไหนของกล้อง
สลักขาตั้งกล้อง, ปุ่มรีโมทชัตเตอร์..
..หรือการติดตั้งบรรดาอุปกรณ์ต่างๆ
..ที่ต้องเป็นไปด้วยความชำนาญ..
หรือการใช้เครื่องมือตกแต่งภาพถ่าย
..นั่นก็ถือว่าเป็นเครื่องมือเหมือนกัน
ก็ร่ำเรียนกันไป
..จนเกิดความชำนาญ
อีกส่วนเป็นองค์ความรู้ที่สอดแทรก
คือ ความเข้าใจในเชิงทฤษฎี
ก็แยกได้สองอย่าง
ได้แก่ความเข้าใจเหตุและผล
ทางวิทยาศาสตร์
..พิสูจน์หลักการทั้งเครื่องมือ
..และพิสูจน์ความจริงด้านจิตวิทยามนุษย์..
พูดไปสำหรับคนเริ่มใหม่นั้นก็คงยาก
ยิ่งคนที่โลกไม่สวย…
..อาจจะยี้กับภาษาที่ละเอียดอ่อน
ยิ่งจิตใจหยาบกระด้าง
ยิ่งเรียนได้ยาก
แต่ถามว่าเรียนได้ไหม..
..เรียนได้..
ก็ทำใจดีๆช่วงเรียนแค่นั้น
…
ยกตัวอย่างง่ายๆ
ผู้สอนเดินทางจากเทศบาลเชียงใหม่
..ไปอำเภอเชียงดาว มี สองวิธี
วิธีแรกคือโดยสารรถยนต์
สะดวกสบาย.. รวดเร็ว..
..อยากหลับก็หลับ
ชั่วโมงกว่าๆ
…ก็เห็นดอยอยู่ตรงหน้า
…สวยสดงดงาม
แต่ไม่เคยจดจำความงามระหว่างทางได้เลย
กับอีกทางหนึ่ง.. คือขี่มอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อน
วันที่ไปฝนก็ตกมั่ง… อากาศเย็นมั่ง
หลบฝนตามศาลา
ปากบอกยกตัวอย่าง แต่ดันไปจริงๆนะจะบอกให้
ดินเลนที่ไม่ใช่ลาดยางนั้นเปียกแฉะ
พอผนหยุด แดดก็ออกเป็นช่วง
…
ระหว่างทางของความลำบาก
…เจือด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม
เห็นชาวบ้านที่แบกของป่าเดินข้างทาง
..ดอกไม้นานาพรรณสองฟากข้าง
ป่าไม้ที่เขียวขจี…
…และหมอกที่เป็นริ้ว
ปกคลุมเมฆเป็นส่วนๆ
สองวิธีนี้ชี้ให้เห็นถึงระยะเวลาที่ใช้
…และสิ่งที่ได้รับ.. ซึ่งต่างกัน
การเดินทางที่ช้ากว่า
ทำให้เราได้ซึมซับสิ่งต่างๆได้ดีกว่า
…
การมองภาพถ่าย
..ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราพิจารณาองค์ประกอบ
..และความสมบูรณ์ต่างๆในเฟรมภาพ
ถ้าเกิดจากความช้านั้นมาก่อน
..ความช้าจะให้เกิดความละเอียด
และการฝึกฝนความช้าจนชำนาญ
..จะทำให้เกิดความเร็ว
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้
..ไม่มีทางลัด
อยากเก่งต้องฝึกฝนเอง
…
ช่วงที่หัดใช้กล้องครั้งแรก..
..การจะใช้กล้องได้อย่างชำนาญ
ไม่ใช่การเสียเงินร่วมทริป..
..หรือหานางแบบสวยๆมาถ่าย
แต่มันเป็นความถี่ที่ได้ฝึกฝน..
ดังนั้น…
..เราจะถ่ายอะไรก็ได้
ขอแค่ได้ฝึกฝน..
การโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเชียวชาญ
..ไม่วอกแวกกับสิ่งรอบข้าง
..ทำอย่างช้าๆและมั่นคง
…
สิ่งนี้นี่เองคือเรื่องที่สำคัญในการศึกษา
..ซึ่งไม่แม้แต่การถ่ายภาพหรอก
เรื่องอื่นก็ต้องใช้..
เรื่องหลายเรื่องในชีวิตเราฉุกคิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง
..แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่เฉลียวใจ
เพราะเขาเร่งรีบมากเกินไป
..จนมองไม่เห็นความงาม
ความงาม…
…ที่เกิดจากความเนิบช้าเหล่านี้หรือเปล่า?