หลังจากกลับมาจากทริปถ่ายภาพ มีการจัดการนำไฟล์ดิบภาพถ่ายลงในคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม Lightroom อย่างเป็นระเบียบ ตั้งค่าชื่อแฟ้มเหตุการณ์แยกไว้อย่างเรียบร้อย กำหนดตำแหน่งย้ายไฟล์ไว้อย่างชัดเจนเมื่อวันที่ต้องเคลียร์ไฟล์ภาพครั้งใหญ่ แถมยังย้ายไฟล์ไปมาระหว่างเครื่องได้อย่างคล่องแคล่ว รู้ว่าแคตตาล็อกทำงานอย่างไร อัพเดทได้อย่างไร ไฟล์ที่หายไปจะค้นหาได้อย่างไร ไม่ใช่ทำได้อย่างเดียวคือแต่งภาพแต่ไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคตตาล็อกใน LR Classic CC [คลิกที่นี่]
จัดการความทรงจำของตนเองโดยการตั้งค่าอัลบั้มหลักและอัลบั้มรองได้อย่างคล่องตัว ยกตัวอย่าง เช่น ‘ร้านกาแฟในกรุงเทพมหานคร’ จะต้องมีชุดคอลเลกชันของกรุงเทพมหานครเป็นคอลเลกชันหลัก และมีคอลเลกชันร้านกาแฟเป็นคอลเลกชันรองอยู่ภายใน หรือภาพบุคคลที่ถ่ายจากสถานที่ต่างๆแยกเอาไว้เป็นระบบชัดเจน นอกจากนี้ยังเลือกใช้ประโยชน์ของความแตกต่างระหว่างคอลเลกชันแบบทั่วไปกับคอลเลกชันอัจฉริยะที่ Lightroom Classic มีมาให้ ยังไงก็ไม่หลงแน่นอน
คอลเลกชันเป็นสิ่งที่ LR Classic CC ทำได้ในโปรแกรม
โดยไม่ส่งผลกับโฟลเดอร์ของระบบปฏิบัติการเลย
ภาพทุกภาพบนอินเตอร์เน็ตไม่มีโปรแกรมใดทราบว่ามันคืออะไรจนกว่าจะระบุข้อมูลแบบฝังตัวลงไปบนภาพถ่าย ไม่ใช่เพียงการกำหนดสิทธิ์ความเป็นเจ้าของหรือลายน้ำแต่เพียงเท่านั้น ยังรวมไปถึงความรอบคอบในการใส่คำเฉพาะ (Keywords) ที่เกี่ยวข้องลงไปในภาพถ่ายชุดนั้นอย่างเรียบร้อย สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้ที่ทำการจัดการภาพมีความรวดเร็วในการนำภาพส่งขายกับเว็บสต็อกในโอกาสต่อไป และยังช่วยในการแท็กหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับภาพได้อีกด้วย
เข้าใจความหมายและใช้งานคำเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการสืบค้นรวมไปถึงด้านอื่นๆได้
สำหรับคนที่มีประสบการณ์ในการตกแต่งภาพถ่ายไปสักระยะ จะทราบได้ด้วยตัวเองว่าทุกอย่างมีระเบียบแบบแผนของมัน เริ่มตั้งแต่การยกเลิกค่าที่ติดมากับกล้องแล้วจึงแก้ไขอาการผิดเพี้ยนทุกอย่างจากโปรไฟล์ จากนั้นจึงเริ่มลงมือตกแต่งไปจนถึงกระบวนการสุดท้ายคือปรับคมและส่งออก การทำงานมายาวนานพอย่อมเกิดความรวดเร็วและชำนาญมากขึ้น จนเทียบกับตัวเองเมื่อก่อนได้เลยว่าปัจจุบันการทำงานนั้นเร็วขึ้นอย่างมาก จากที่เคยเป็นชั่วโมงก็ลดลงเหลือ 10-15 นาทีเท่านั้น
ทำภาพมานานจนมีความเคยชิน
เข้าใจถึงความสำคัญของสเปซสีและความถูกต้องแม่นยำของไฟล์ผลลัพธ์สุดท้ายก่อนนำออกไปใช้งาน รู้ว่าไฟล์สำหรับพิมพ์และไฟล์สำหรับแสดงผลทางหน้าจอไม่เหมือนกัน และยังกำหนดสีได้ตรงตามความต้องการของการส่งออก สามารถกำหนดขนาดครอปของภาพและความเพี้ยนสีที่อาจเกิดขึ้นของหน้าได้พอสังเขป เข้าใจถึงขนาดของแหล่งเผยแพร่ในแต่ละที่ และทำภาพได้คุณภาพสูงสุดก่อนนำออกไปเผยแพร่เนื่องจากเข้าใจว่ายังไงภาพก็ต้องถูกลดคุณภาพอยู่ดีตามข้อกำหนดของแหล่งเผยแพร่นั้นๆ ทำให้ตกผลึกทางความคิดว่าการนำไปใช้งานในแต่ละรูปแบบไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าปลายทางสุดท้ายต้องการให้เป็นอย่างไร
การส่งออกแต่ะรูปแบบมีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นการส่งพิมพ์ลงบนกระดาษ, การส่งออกเพื่อนำเสนอบนหน้าจอ หรือแม้แต่แหล่งสังคมออนไลน์ต่างๆ
หากก้าวมาถึงจุดนี้ได้คงต้องบอกว่าคุณคงไม่ใช้มือใหม่ที่มีความรู้สึกเหมือนได้จับโปรแกรมวันแรกๆ และทุกอย่างจากนี้จะมีความแม่นยำรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สิ่งที่เคยยากกลายเป็นความเคยชิน และขอบอกว่าคุณเป็น 1 ในไม่กี่สิบเปอร์เซนต์ที่ใช้งาน LR Classic CC ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เทียบกับคนที่ใช้งานทั่วไปที่มีโปรแกรมไว้เพื่อกดพรีเซ็ตแล้วก็ออกโปรแกรมเท่านั้น