พรีเซ็ต (Preset) หรือ ชุดคำสั่งอัตโนมัติ เปรียบเสมือนการบันทึกค่าสเกลต่างๆที่มีอยู่ในโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นอยู่แล้วโดยที่เราไม่ต้องมาตั้งค่ากันบ่อยๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ของการแต่งภาพเป็นไปตามที่เราต้องการ เช่น ทำให้ภาพสว่างหรือมืดกว่าปกติโดยที่ภาพปกติก่อนแต่งอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ คำสั่งเหล่านี้เมื่อเซฟไว้เป็นไฟล์รูปแบบพรีเซ็ตที่นำมาแจกจ่ายกันได้ ก็ย่อมเกิดการแลกเปลี่ยน มีทั้งหาโหลดฟรี และ ต้องซื้อเอา
ร้านค้าออนไลน์ส่วนของพรีเซ็ตจาก DozzDIY คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จากหน้าดังกล่าวโดยตรง
เมื่อเราได้ซื้อพรีเซ็ตไปแล้วเมื่อลองกดใช้ดูปรากฏว่าภาพที่ได้กลับไม่เหมือนภาพปกตัวอย่างที่เขานำมาเสนอ ทั้งๆที่พยายามตกแต่งเพิ่มเติมแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นอาจจะต้องเริ่มจากการโทษตัวเองดูก่อนโดยการฝึกถ่ายภาพเบื้องต้นให้ดี แต่ถ้าลองกดดูแล้วยังไม่ได้ก็ให้ลองถามไปยังผู้ขายในสิ่งที่สงสัยว่าเขาทำอะไรเพิ่มเติมไหม แล้วถ้าเขาไม่สามารถตอบคุณได้ล่ะ? มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะถูกหลอกหรือมีคำอธิบายที่่ไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้อย่างเราแน่ๆ แล้วจะมีวิธีตรวจสอบว่าภาพถ่ายที่กดใช้แล้วมันไม่เวิร์กนั้นอย่างไร หรือเกิดจากเราเองเป็นคนไม่ดีหรือพรีเซ็ตไม่ดีได้อย่างไร พิจารณาได้จากหัวข้อเหล่านี้ครับ
โทนของภาพเกิดจากตัวแปรที่เปลี่ยนไปของ ‘ความสว่างของภาพ’ และ ‘สีสันของภาพ’ ดังนั้นจึงมี ภาพถ่ายกลุ่มหนึ่งที่รับประกันได้ว่าพรีเซ็ตจะทำงานได้ดีอยู่เสมอก็คือภาพถ่ายที่เก็บรายละเอียดและสีสันมาได้อย่างพอเหมาะพอดีสำหรับการตกแต่ง แน่นอนเรากำลังกล่าวถึงฮิสโตแกรมในระดับกลางๆลองนึกดูว่าถ้าคุณซื้อพรีเซ็ตที่ทำให้ภาพสว่างแล้วภาพต้นฉบับคุณถ่ายมาพอดีแล้วภาพไม่สว่างหรือถ้าพรีเซ็ตกดใช้กับภาพเหล่านี้แล้วยังไม่ดีจะต้องเกิดจากความเข้าใจผิดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเราหรือผู้ขาย แต่ที่แน่ๆพรีเซ็ตนั้นมีความยืดหยุ่นต่ำ และใช้ไม่ได้กับภาพส่วนใหญ่แน่นอน
พรีเซ็ตสามารถใช้ได้กับภาพส่วนใหญ่หรือไม่ ให้ทดสอบกับภาพที่ถ่ายมาในสภาพแสงที่พอดี ไม่เช่นนั้นบอกเลยว่าใช้ยากครับ
แม้พรีเซ็ตจะถูกสร้างมาด้วยสเกลที่มีความจำเพาะเจาะจงมากเพียงใดก็ตามมันก็ยังมีเงื่อนไขที่พรีเซ็ตนั้นสามารถใช้งานได้ (ดูตัวอย่างจากพรีเซ็ต Lullaby) สำคัญที่ว่าคนซื้อจะรู้ได้อย่างไรว่าพรีเซ็ตนั้นควรจะถูกใช้งานในลักษณะใดถ้าไม่ได้ทราบข้อมูลจากผู้ขายเลยหรือว่าดูเอาจากแค่ภาพตัวอย่างเพียงอย่างเดียว ดังนั้นนอกเหนือกว่าความเป็นพรีเซ็ตก็คือส่วนระบุการใช้งานว่าภาพต้นฉบับควรมีทิศทางอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นพรีเซ็ตแฟชั่นที่ต้องใช้กับภาพถ่ายที่มีการกำหนดสีแบบตายตัวในภาพมาแล้ว เป็นต้น
ฮิสโตแกรมคือความสำคัญลำดับต้นๆในการเลือกใช้งานพรีเซ็ตเพื่อกำหนดทิศทางต่อไป
ผู้ขายที่มีความรับผิดชอบนั้นจะต้องพร้อมเผชิญกับปัญหาและมีความอดทนสูงต่อผู้ซื้อ เพราะความเป็นจริงก็คือไม่มีใครที่ถ่ายภาพต้นฉบับมาได้เหมือนกันเลยสักคนแม้ว่าจะถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์และสภาพแสงแบบเดียวกัน เมื่อเกิดปัญหาดังนี้แล้วความยืดหยุ่นของพรีเซ็ตเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่มากพอเท่ากับงานบริการและส่วนของความช่วยเหลือซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจแบบเดียวกันกับผู้ขายและประสบความสำเร็จในการใช้งาน ไม่ใช่ว่าก๊อปปี้พรีเซ็ตฟรีที่อื่นมาแก้ไขแล้วขายโดยไร้ความรับผิดชอบใดๆ (ซึ่งตรงนี้ตรวจสอบได้หากผู้ขายตัวจริงมีการฝังข้อมูลเอาไว้)
ตัวอย่างการติดตั้งพรีเซ็ตอย่างละเอียดของ CineStill Series ที่วางขายในปี 2019
ผู้ที่ซื้อพรีเซ็ตบ่อยๆจากแหล่งใดสักแหล่งคงจะพอทราบว่ามาตรฐานและคุณภาพของสิ่งที่ซื้อมาเป็นอย่างไรจนเป็นที่มั่นใจว่าเขาจะได้ในสิ่งที่ต้องการจนต้องซื้อซ้ำอยู่เรื่อยๆแม้ว่าราคาจะสูงกว่าที่อื่น นั่นเป็นเพราะความครบถ้วนการใช้งานและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้ในรูปแบบของสื่อที่ใช้งานและเข้าใจง่ายลองเทียบดูระหว่างการจ่ายเงินเพื่อซื้อพรีเซ็ตที่ใช้งานไม่ได้จริงเป็นจำนวนมากแต่ราคาถูกนั้นจะส่งผลต่อเวลาในการทำงานของคุณมากขนาดไหน
พรีเซ็ตแต่ละตัวมีเอกลักษณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน ควรมีรายละเอียดแสดงให้ครบถ้วน
จินตนาการถึงวันที่เรามีพรีเซ็ตอยู่ในโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นมากกว่า 100 พรีเซ็ตในโปรแกรม อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถจดจำเอกลักษณ์หรือค่าสีหรือประเภทของพรีเซ็ต ทางออกของปัญหานี้ก็คือการจัดระเบียบหมวดหมู่โดยผู้ขายมาตั้งแต่ต้น เพราะผู้ขายทุกคนถ้ารู้จักสิ่งที่ตัวเองขายเป็นอย่างดีเขาจะจัดการทุกอย่างมาอย่างเป็นระเบียบเพื่อความรวดเร็วและไม่เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ
ยกตัวอย่างเช่น หมวดกลุ่มฟิล์ม DozzDIY ก็แยกออกเป็น 4-5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มฟิล์มเนกาทีฟทั่วไป,กลุ่มฟิล์มย้อนยุค, กลุ่มฟิล์มสำเร็จรูป, กลุ่มฟิล์มขาวดำ และ กลุ่มฟิล์มสไลด์ เป็นต้น
ถ้าผู้ขายนั้นเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังขายอยู่จริงๆ มีคำถามแบบไหนบ้างที่นำไปใช้ทดสอบหรือเอาไว้ถามถึงเอกลักษณ์เฉพาะที่ใช้กับภาพได้ เพราะถ้าเข้าใจจริงก็ต้องตอบคำถามเหล่านี้ได้ เผลอๆยังเป็นการจุดประกายไอเดียใหม่ๆให้กับผู้ซื้อในการพลิกแพลงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
1. ประเภทของภาพต้นฉบับที่นำมาใช้งานเป็นอย่างไร : จะต้องตอบได้ว่าภาพควรมีแสงหรือรายละเอียดพอดี หรือล้นไปทางด้านมืดหรือสว่าง สีควรซีดหรือเข้ม เหมาะกับภาพที่มีเกรนอยู่แล้วหรือไม่มี
2. น้ำหนักของภาพเมื่อใช้แล้วเป็นอย่างไร : ส่วนนี้กล่าวถึงฮิสโตแกรมซึ่งเป็นความสำคัญครึ่งหนึ่งของโทนภาพ หมายถึงน้ำหนักภาพที่ได้ว่าโอเวอร์หรืออันเดอร์ ทึบหรือกว้าง เบาหรือหนัก เป็นต้น
3. ความสัมพันธ์ของสีเป็นอย่างไร : ความสัมพันธ์ของสีคือส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากพรีเซ็ต เกี่ยวข้องกับทฤษฎีสีและหลักคิดในการออกแบบสร้างพรีเซ็ต เพราะมันจะส่งผลกระทบแทบทั้งหมดของวงล้อสีให้อยู่โซนที่กำหนด ผู้ขายจะต้องแนะนำได้ว่าเป็นรูปแบบการเข้าคู่อย่างไร สีเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
4. วรรณะของสีในภาพต้นฉบับและภาพผลลัพธ์เป็นอย่างไร : ผู้ขายต้องตอบได้ว่าต้นฉบับสมดุลแสงขาวเป็นอย่างไร ควรจะร้อนหรือเย็น ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขควรแก้ไขอย่างไร ไม่เหมาะหรือเหมาะที่จะใช้กับภาพที่เซ็ตสีตั้งต้นมาแบบไหน
5. สกินโทนเป็นอย่างไร : คำถามขั้นพื้นฐานที่จะบอกให้เราทราบว่า พรีเซ็ตที่ซื้อไปเหมาะกับภาพคนหรือไม่เหมาะ เพราะพรีเซ็ตบางกลุ่มใช้ได้ดีกับภาพคนและบางกลุ่มไม่ใช่ เช่น สีแดง, สีส้ม, สีม่วงแดง, สีเหลือง และสีเขียว เป็นต้น
6. มิติของสีสันในภาพหลังใช้พรีเซ็ตจะเป็นอย่างไร : กล่าวถึง Dimension ของสี ได้แก่ Hue, Saturation และ Luminance ที่ต้องระวังอย่างมากในการสร้างพรีเซ็ต เพราะส่งผลให้พรีเซ็ตนั้นดีหรือแย่ไปเลยก็ได้
รูปแบบความสัมพันธ์ของสีที่เป็นไปได้จากการใช้พรีเซ็ต (จากหลักสูตรทฤษฎีสีในการถ่ายภาพดิจิตอล)
อาจจะมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้ใส่ใจว่าพรีเซ็ตที่ตัวเองซื้อมาจะต้องมีเงื่อนไขหรือข้อจุกจิกกวนใจมากขนาดนี้ก็ได้ ขอแค่มันมีราคาถูกกว่าที่อื่นและได้สีที่โดนใจก็พอ จนกว่าจะเริ่มพบปัญหาว่าในบางครั้งอะไรๆก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด ซึ่งกว่าจะมานึกได้ก็เสียเงินฟรีไปแล้ว และความจริงที่ว่าของฟรีและดีมันก็มีอยู่ในโลกก็ยังเป็นความจริง เพียงแต่ว่าเรามีความสามารถในการแยกแยะว่าสิ่งที่ซื้อมาดีจริงๆและน่าเชื่อมากแค่ไหนต่างหากที่สำคัญ