เพราะว่าระหว่างตกแต่งภาพถ่ายจะมีการสูญเสียข้อมูลในภาพอยู่ตลอดเวลา การวางแผนไว้เป็นอย่างดีไม่เพียงแต่จะช่วยลดสิ่งที่สูญเสียไปแต่ยังทำให้กระบวนการแต่งภาพในทุกๆครั้งมีขอบเขตแน่นอน ซึ่งจะนำไปสู่ความรวดเร็วแม่นยำที่มากขึ้นเรื่อยๆ
การตกแต่งภาพถ่ายไม่ว่าจะเป็นของตัวผู้สอนหรือทีมงานเองมีขั้นตอนที่ตายตัว เริ่มต้นตั้งแต่การบันทึกภาพด้วยคุณภาพสูงสุด และจัดการไฟล์ภาพดิบด้วยโปรแกรมจัดการโดยเฉพาะอย่าง Sigma PhotoPro กรณีกล้องถ่ายภาพดิจิตอลของค่าย Sigma (เซ็นเซอร์พิเศษ) หรือโปรแกรมจัดการไฟล์ภาพดิบที่รู้จักอย่าง Adobe Lightroom Classic กรณีกล้องถ่ายภาพนอกเหนือจากนั้น และนำไปจัดการภาพขั้นละเอียดต่อที่ Adobe Photoshop CC อีกครั้ง
กรณีพิเศษสำหรับอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพดิจิตอลเซ็นเซอร์ Foveon หรือ Foveon Quattro นามสกุล .X3F ที่ให้ภาพรายละเอียดแบบพิเศษ จะเป็นการคงไว้ซึ่งรายละเอียดภาพสูงสุดก่อน เพราะโปรแกรม Sigma PhotoPro ไม่สามารถตกแต่งภาพในระดับกลุ่มพิกเซล หรือการรีทัชที่ละเอียดมากๆด้วยเทคนิคพิเศษได้ จบด้วยการบันทึกไฟล์ในแบบสี ProPhoto 16 บิต ซึ่งสูญเสียลงจากเดิมน้อยที่สุด
Sigma PhotoPro เป็นแค่ทางผ่านไฟล์ RAW ของกล้องค่าย SIGMA (กรณีนามสกุล .X3F) ก่อนนำไปแต่งต่อในโปรแกรม Lightroom หรือ Photoshop ต่อไป
การตกแต่งภาพในโปรแกรม Lightroom Classic ปัจจุบันนั้นครอบคลุมการตกแต่งภาพไปเกือบ 90% ของทั้งกระบวนการแล้ว ซึ่งนั่นหมายถึงบางครั้งไม่จำเป็นต้องไปจบใน Adobe Photoshop ทุกภาพเหมือนอย่างเคยหากไม่จริงจังกับการแต่งภาพมาก (ส่วนใหญ่จะเป็นภาพจากกล้องของ Sigma เซ็นเซอร์ Foveon เนื่องจากความคมชัดอยู่ในระดับสูงสุดอยู่แล้วไม่ต้องทำเพิ่มเติม)
สรุปขั้นตอนได้ดังนี้ : ใช้แม่แบบสีอัตโนมัติ > รื้อค่าดังเดิมของกล้องออก > ปรับค่าภาพโดยรวม > ปรับค่าภาพอย่างละเอียดด้วย Masking > ปรับคมและส่งออกหรือโยนไป Photoshop
หมายเหตุ : ความหมายของแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดมีบอกไว้สำหรับผู้ที่ลงเรียนหลักสูตร Lightroom Classic : Reverse-Learning กับ DozzDIY โดยตรง
สำหรับ Photoshop นั้นมักเป็นเทคนิคพิเศษที่ไม่สามารถทำได้ในโปรแกรมทั้งสองก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Luminosity Mask เพื่อจัดการกับส่วนสว่างขั้นละเอียด หรือ Tonal Mask สำหรับวรรณะสีขั้นละเอียด หรือการปลอมแปลงเพิ่มเติมพิกเซลใหม่ๆเข้าไปในภาพ เช่น การรีทัชแบบต่างๆ รวมไปถึงขั้นตอนการปรับคมที่เลือกจะทำใน Photoshop แทนหากไม่ทำใน Lightroom Classic
มีหลายอย่างที่ Photoshop CC ทำได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการปรับคมที่พิเศษกว่า หรือ การรีทัชที่แนบเนียนด้วยเครื่องมือแบบต่างๆ หากไม่จบที่ Lightroom ก็จะถูกส่งมาที่นี่ต่อ
การตกแต่งภาพถ่ายในขณะที่ยังคงเป็นไฟล์ภาพดิบในโปรแกรมจัดการเป็นการแต่งภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียด (Non-Destructive Editor) อย่าง Sigma PhotoPro กับ Lightroom Classic อาจจะทำขั้นตอนใดก่อนก็ได้แต่แนะนำว่าเรียงลำดับก่อนหลังไว้ยังไงก็ดีกว่าในเรื่องความรวดเร็ว ส่วน Photoshop CC จะต้องระวังความเสียหายไฟล์ด้วยการทำงานแบบลำดับชั้นหรือ Smart Objects เอาไว้ดีที่สุด