การถ่ายภาพนั้นเกี่ยวข้องกับแสงโดยตรง เราจึงต้องตระหนักต่อทุกตัวแปรที่ส่งผลกระทบไม่ว่าจะเป็นขนาดของรูรับแสง, ความเร็วชัตเตอร์ หรือความไวแสง ทั้งหมดล้วนนำมาซึ่งผลลัพธ์ของภาพที่สว่างขึ้นหรือมืดลงทั้งสิ้น
คำว่า ‘สว่างหรือมืดตามที่ต้องการ’ ไม่ใช่ความถูกต้องจริงๆเพราะเรามีสิทธิ์ที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆในมุมมองที่ตัวเองอยากนำเสนอ (Source)
คำว่า ‘สว่างหรือมืดตรงตามต้องการ’ จึงไม่ระบุไว้อย่างตายตัวว่าต้องการให้เป็นแบบไหน อาจจะมืดหรือสว่างกว่าปกติก็ได้ตามแต่ความต้องการของผู้บันทึกภาพ
ลองเอากล้องเล็งไปยังวัตถุที่เป็นสีขาวจ้า หรือดำมืดสนิทจะพบว่ากล้องพยายามจะทำให้สิ่งที่เห็นไม่เป็นแบบนั้น เช่นถ้าเล็งไปยังวัตถุสีขาวก็จะปรับทำให้วัตถุนั้นมืดจนเป็นสีเทา หรือเล็งที่วัตถุสีดำกล้องก็จะปรับให้สว่าง ดังนั้นสรุปได้ว่ากล้องไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าสิ่งที่เล็งอยู่สีอะไร มันรู้แค่ว่าจะทำให้ความสว่างที่ได้รับมีค่ากลางๆได้ยังไง
สีสันที่เรามองเห็นอยู่อย่างปกตินั้นเมื่อเป็นระบบกล้องดิจิตอลที่เราทราบแล้วว่าพยายามปรับให้อยู่ในค่าสีเทา สีที่เห็นนั้นจึงถูกกอดออกเหลือมิติความสว่างในสายตาของกล้อง สีฟ้ากับสีกรมท่าจึงเหลือแค่สีเทากับสีเทาที่มืดกว่า เดาได้ไม่ยากว่าหากนำกล้องไปเล็งยังสีดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่ง กล้องจะต้องปรับให้สีนั้นสว่างขึ้นหรือมืดลงแน่นอน
ความสว่างของสิ่งต่างๆที่มีอยู่อย่างมากมายใน 1 เฟรมภาพนั้นยิ่งแล้วใหญ่เพราะกล้องดิจิตอลเลือกความสว่างได้ค่าเดียว การปรับค่าแสงหรือที่เรียกว่าการชดเชยแสงให้กับสิ่งที่เรากำลังโฟกัสอยู่นั้นมีความถูกต้องจึงจำเป็น (แม้จะทำในสิ่งที่อยู่นอกโฟกัสนั้นผิดไปหมดในเบื้องต้นก็ตาม)
อันที่จริงการพิจารณาเอาจากฮิสโตแกรมแล้วปรับค่า ‘ความเร็วชัตเตอร์’ กับ ‘ความไวแสง’ มันก็น่าจะจบปัญหาของแสงที่ไม่ต้องการ ในส่วนของ EV ที่ใช้ชดเชยแสงที่ Moment Pro Camera มีมาให้นั้น ลองเลื่อนๆดูจะพบว่า ค่าความเร็วชัตเตอร์ และความไวแสง จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสว่างหรือมืดแบบละเอียดมากขึ้น ทำให้วัตถุนั้นมีความสว่างหรือมืดนั่นเองครับ
ไม่มีตัวเลือกปรับค่ารูรับแสงเลยทำให้สบายไป 1 อย่าง
แอปพลิเคชัน Moment Pro Camera มีการล็อกและปล่อยตัวแปรอิสระ จึงไม่จำเป็นต้องจำว่าขณะนั้นอยู่ในโหมดที่มีชื่อว่าอะไร รู้แค่เพียงจะทำให้ภาพที่กำลังเห็นนั้นสว่างหรือมืดตามความต้องการได้ยังไงก็เพียงพอแล้ว