6 หลักการเพื่อเลือกซื้อกล้องถ่ายภาพ

กล้องที่ดีคือกล้องที่เราถือไปถ่ายภาพได้ทุกวัน

ผมเจอคำถามจากเพื่อนๆ บ่อยมากว่า “อยากซื้อกล้อง ตอนนี้กล้องรุ่นไหนดีที่สุด” แต่จริงๆ ผมคิดว่าคำถามที่ถูกต้องกว่าควรจะเป็น “กล้องไหนที่เหมาะกับเรา”

จากประสบการณ์ ผมเห็นหลายคนซื้อกล้องแพงๆ แล้วไม่ได้ใช้ หรือเปลี่ยนกล้องใหม่ทุกปีเพราะหลงไปกับเทคโนโลยี (แน่นอนว่าถ้าคุณรวยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ)

วันนี้จะแชร์หลักการเลือกกล้องที่จะอยู่กับคุณได้ยาวนาน และสามารถใช้แนวคิดนี้ในการตัดสินใจเลือกซื้อกล้อง

งบประมาณ vs ความต้องการจริงๆ

ปัญหาโลกแตกมากๆ คือ งบประมาณ x บาท ควรซื้อกล้องอะไรดี หรือ แม้แต่ ควรจะเพิ่มเงิน X บาทไหม จะได้รุ่นใหม่ ผมขอแยกประเด็นดังนี้ครับ

ถ้าคุณถูกจำกัดด้วยงบประมาณ

แน่นอนว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ การใช้จ่ายเงินซื้ออะไรสักอย่างต้องคิดแล้วคิดอีก แน่นอนว่างบของคุณอาจจะไม่ได้กล้องที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ แต่ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ ยิ่งถ้าคุณพึ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ

จำไว้ว่า: กล้องเก่าหลายปียังสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ เทคนิคและไอเดียในการถ่ายภาพสำคัญกว่าเทคโนโลยีในกล้อง อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์

หากการเงินคุณพร้อมที่จะขยายไปอีกหน่อย

การเพิ่มเงินอีกสักนิดเพื่อได้อะไรที่ใหม่กว่าก็น่าจะดีไหมครับ โดยเฉพาะฟังก์ชันที่สำคัญ ย้ำว่าสำคัญ

เช่น ถ้าคุณเพิ่มเงินอีก 5,000 บาทแล้วได้กล้องที่จอพับได้ แน่นอนว่ามันส่งผลให้คุณสามารถถ่ายภาพในมุมที่หลากหลายได้มากขึ้น ก็น่าจะดี

ปล. อย่าลืมว่านอกจากกล้องแล้ว คุณยังต้องมีกระเป๋าสำหรับใส่กล้อง ขาตั้งกล้อง ตู้เก็บกล้องเพื่อป้องกันความชื้น หรือแม้แต่เลนส์ดีๆ สักตัว

ขนาดเซ็นเซอร์ที่เหมาะกับคุณ

ใครเลือกกล้องตอนแรกคงจะงงเป็นไก่ตาแตกกับขนาดเซ็นเซอร์ทั้ง Full Frame APS-C หรือ Micro Four Thirds เอาละ เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟัง

หลักการง่ายๆ เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ สามารถรับแสงได้ดีขึ้น สร้างมิติและความอิ่มตัวของสีได้ดีกว่าเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น (แต่ปัจจุบันผมเห็นว่ามีกล้องขนาด Full Frame ที่ตัวขนาดเท่ากล้อง Mirrorless แล้ว)

ประเด็นที่สำคัญคือ คุณโอเคกับราคาที่จ่ายเพิ่มขึ้นไหม?

ถ้าคุณตั้งใจจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ การมีกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ฟูลเฟรม (Full Frame) ก็น่าจะดีกว่า เพราะช่วยคุณเก็บภาพได้ดี

แต่ถ้าสุดท้ายคุณแค่ถ่ายภาพแล้วอัพลง social ที่มีการลดขนาดและบีบภาพ แบบนั้นจำเป็นจริงหรือ?

ระบบเลนส์และอุปกรณ์เสริม

เรื่องนี้สำคัญมากๆ เลยในการพิจารณา คุณควรจะเลือกแบรนด์ที่มีระดับของเลนส์ให้ซื้อหลากหลาย ทั้งเลนส์ระดับเริ่มต้น ที่คุณภาพโอเค ไปจนถึงเลนส์ระดับมืออาชีพ ที่คุณภาพยอดเยี่ยม แต่มาพร้อมราคาสูงมาก

ผมมองว่าการซื้อกล้องคือเหมือนไปอยู่ใน Ecosystem คล้ายๆ กับระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์ของเรา เพียงแค่วงการถ่ายภาพมีหลาย Ecosystem มากกว่าแค่นั้นเอง

สัมผัสและการใช้งาน

กล้องที่จับถนัดคือกล้องที่คุณจะหยิบขึ้นมาใช้บ่อยที่สุด สิ่งนี้สำคัญกว่า Spec ที่เขียนในกระดาษ ก่อนซื้อ ผมขอแนะนำให้ไปจับจริงที่ร้าน เพื่อทดสอบ:

น้ำหนักกล้องเมื่อรวมกับเลนส์แล้วเป็นไง หนักไปไหมสำหรับเรา
ปุ่มต่างๆ กดถนัดไหม นิ้วยาวถึงหรือเปล่า
Menu ใช้งานง่ายไหม สามารถควบคุมได้ดีหรือไม่

สำหรับมือใหม่ ผมแนะนำให้ลองถามพนักงานดูว่า ถ้าจะเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ เช่น ค่าความไวแสง (ISO) ความเร็วของม่านรับแสง (Shutter Speed) ต้องทำอย่างไร แล้วดูว่ายากหรือง่ายเพียงใด

ช่องมองและจอ LCD

สำหรับกล้องรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะกล้อง Mirrorless มักมาพร้อมกับจอ LCD หรือ Viewfinder แบบอิเล็กทรอนิกส์ (EVF)

บางครั้งพบว่ากล้องที่มีเพียงแค่จอ LCD เป็นอย่างเดียว มักมีปัญหาสู้แสงไม่ได้ ผมเลยอยากแนะนำให้หากล้องที่มี EVF ช่องมองที่ดีกว่า แน่นอนก็อาจจะเป็นกล้องระดับ Mid-Level

กล้องที่ Spec สูงแต่จับไม่ถนัด จะกลายเป็นของตกแต่งบ้าน ในขณะที่กล้องที่เราใช้งานสะดวก พกพาไปไหนก็ได้ จะทำให้คุณถ่ายรูปบ่อยขึ้น และพัฒนาทักษะขึ้นได้เร็วกว่า

คุณสมบัติหลักที่สำคัญจริงๆ

มีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้นที่คุณควรดูจริงๆ

โหมดโฟกัสและความเร็ว

มีโหมดให้เลือกใช้หลากหลายแค่ไหน เหมาะกับการใช้งานของคุณหรือไม่
โฟกัสได้เร็วแม่นยำเพียงพอกับสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่
ถ้าคุณเป็นคนที่ถ่ายภาพทั่วไปเช่น คาเฟ่ คน หรือแม้แต่วิว ความเร็วไม่ใช่สิ่งจำเป็น คุณไม่ต้องการเทคโนโลยีระดับนั้น
แต่ถึงคุณจะใช้กล้องที่ Autofocus ได้ช้า ถ้าคุณฝึกฝนบ่อยเพียงพอ ผมเชื่อว่าคุณเก็บภาพทันแน่นอน

Battery Life

ถ่ายได้กี่ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำคัญมากสำหรับนักเดินทาง

ISO Performance / Dynamic Range

ภาษาง่ายๆ คือ กล้องดังกล่าวเมื่อถ่ายในที่มืดและใช้ค่าความไวแสง (ISO) สูงๆ แล้วภาพที่ได้มากมีสิ่งรบกวน (Noise) เยอะหรือไม่
ส่วน Dynamic Range คือความสามารถของกล้องที่จะเก็บรายละเอียดในส่วนที่มืดที่สุดและสว่างที่สุดในภาพเดียว
สิ่งพวกนี้มักไม่ได้เขียนไว้ใน Spec มากนัก ดังนั้นวิธีที่ทำได้คือ ดูตัวอย่างภาพ แต่ต้องระวังว่าภาพนั้นผ่านการแต่งมาแล้ว

คุณสมบัติอื่นๆ เช่น In-Body Stabilization, 4K Video, Wi-Fi เป็นโบนัส ไม่ใช่สิ่งจำเป็น อย่าจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสิ่งที่ไม่ได้ใช้

คำแนะนำจาก อ.ดอส

คนซื้อกล้องตอนที่ยังถ่ายภาพไม่เป็น จะไม่รู้ความต้องการของตัวเอง ถูกหลอกด้วยกลไกทางการตลาดได้ง่ายๆ ระบบการถ่ายภาพจริง ๆ แล้วนั้นไม่ได้อาศัยโหมดหรือลูกเล่นอะไรมากมาย เทคโนโลยีใหม่ ๆ ช่วยให้สะดวกขึ้นแค่นั้น กล้องในปัจจุบันทำได้ดีทุกค่ายแล้ว คำถามก็คือ ถ้าถ่ายภาพไม่เป็น จะซื้อกล้องมาเพื่ออะไร เพื่อเรียนจริงจัง ใช้งานสตูดิโอ รับงาน หรือพกไว้ถ่ายท่องเที่ยว มันจะระบุกลุ่มความต้องการได้มากขึ้น เลือกกล้องได้แม่นยำมากขึ้น