การที่เราคอยจับตาดูการขึ้นลงของความเร็วชัตเตอร์ในโหมดกึ่งอัตโนมัติอย่างโหมด Aperture Priority (A หรือ Av) หรือโหมดที่มีการล็อกค่าความเร็วชัตเตอร์โดยตรงอย่าง Shutter Speed (S) พบว่าความเป็นไปได้ในการบันทึกภาพให้ทุกอย่างนิ่งสนิท, เคลื่อนไหวนิดๆ ไปจนถึงเบลอจนเอาสาระอะไรไม่ได้ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาตามสภาพแสง
จนกระทั่งความจดจ่อนี้ทำให้เราหลงลืมไปว่าตัวแปรแฝงอีกอย่างหนึ่งในการทำให้ภาพไม่คมชัดอย่างที่ควรจะเป็น คือ ‘ทางยาวโฟกัส’
ทางยาวโฟกัสของเลนส์หมายถึงระยะของจุดที่แสงมาบรรจบกันภายในเลนส์ไปจนถึงจุดเซ็นเซอร์รูปภาพ ทางยาวโฟกัสเลนส์ต่ำองศาการรับภาพจะกว้าง และทางยาวโฟกัสเลนส์สูงองศาการรับภาพจะแคบ (เราให้เรารู้สึกว่าภาพถูกซูมเข้ามา)
แล้วมันเกี่ยวกับการสั่นไหวได้อย่างไร? อธิบายง่ายๆโดยภาพสองภาพ ภาพแรกเกิดจากเลนส์ทางยาวโฟกัสต่ำค่าหนึ่งซึ่งมีมุมรับภาพกว้าง วัดจากจุดซ้ายสุดไปยังขวาสุดของเฟรมภาพยาวเท่ากับภาพจริงเป็นระยะ 20 เมตร และอีกภาพหนึ่งเกิดจากเลนส์ทางยาวโฟกัสสูงที่ให้มุมรับภาพแคบ วัดระยะจากจุดซ้ายสุดของเฟรมภาพยาวเพียง 2 เมตรในภาพจริง
ถ้าวัตถุในภาพขยับเพียง 1 เมตร ในภาพแรกจะเคลื่อนที่ไปเพียง 5% ของระยะในภาพทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบกับภาพจากเลนส์ทางยาวโฟกัสสูงจะเคลื่อนที่ไปมากถึง 50% ของพื้นที่ในภาพ
สรุปง่ายๆได้ว่ายิ่งเลนส์ที่ใช้มีทางยาวโฟกัสสูงขึ้นมุมรับภาพยิ่งแคบลง การเคลื่อนไหวหรือสั่นไหวเพียงเล็กน้อยจึงมีผลกระทบมากยิ่งขึ้น
คำถามต่อมาก็คือ ‘เราควรใช้ความเร็วชัตเตอร์เท่าไหร่กับเลนส์ทางยาวโฟกัสต่างๆ?’ ขั้นตอนแรกให้ดูว่ากล้องที่ใช้อยู่นั้นมีขนาดเซ็นเซอร์เป็นเท่าใด แล้วแปลงค่าของเซ็นเซอร์โดยอ้างอิงจากเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมมีค่าเท่ากับ 1 และมากขึ้นเมื่อเซ็นเซอร์มีขนาดเล็กลงด้วยค่า Crop Factor หรือค่าคงที่ขนาดกรอบภาพ
ต่อมาให้นำค่า Crop Factor ดังกล่าวนั้นคูณด้วยทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่ใช้ ความเร็วชัตเตอร์ที่สามารถใช้เพื่อบันทึกภาพให้นิ่งได้โดยประมาณ คือ 1/(2เท่าของค่าที่ได้) มีหน่วยเป็นวินาที
ยกตัวอย่าง เช่น กล้องที่ใช้คือ Sigma FP กับเลนส์ Sigma 45mm f/2.8 DG DN Contemporary ซึ่งตัวกล้องใช้เซ็นเซอร์แบบฟูลเฟรม (เท่ากับ 1) และเลนส์ทางยาวโฟกัส 45มม. ความเร็วชัตเตอร์ที่จะเอาชนะการสั่นไหวโดยประมาณคือ 1/(2×45) = 1/90 วินาที
ระบบกันสั่นของกล้องนับเป็นตัวช่วยที่ทำให้ช่างภาพไม่ต้องกังวลปัจจัยความสั่นไหวทั้งภายนอกและจากตัวช่างภาพเองมากเกินไปนัก ควรศึกษาข้อมูลจากค่ายผู้ผลิตให้ดีว่าระบบนี้จะช่วยได้ขนาดไหน เป็นแบบกันสั่นที่ตัวกล้องหรือตัวเลนส์
ยกตัวอย่าง เช่น ระบบกันสั่นที่ช่วยลดโอกาสสั่นไหวลง 2 สต็อป หมายความว่าถ้าช่างภาพใช้เลนส์ทางยาวโฟกัส 200 มม ก็มีความเป็นได้ว่า ที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/50 วินาที ภาพที่ได้จะยังคงนิ่งสนิท (200 > 100 > 50 นับไปทีละ 2 เท่า) หมายถึงโอกาสที่มากขึ้นในการได้ภาพโดยไม่ต้องดันค่าความไวแสงเพื่อเพิ่มน้อยส์ให้กับภาพโดยไม่จำเป็น
การถ่ายภาพโดยเอา ‘ความเร็วชัตเตอร์’ มาเป็นประเด็นหลัก จึงไม่ใช่การจบอยู่แค่ว่าความเร็วชัตเตอร์ในขณะนั้นคือค่าที่แท้จริงในการบันทึกภาพ เพราะยังมีอะไรๆซ่อนอยู่ในค่าเหล่านี้อีกมาก