Photoshop CC : เลือกเฉพาะสีในภาพด้วย Color Range

Color Range นับเป็นเครื่องมือในการคัดเลือกพื้นที่ๆมีความสำคัญมากในการแก้ไขภาพ เนื่องจากว่าจะช่วยให้ผู้เรียนคัดเลือกสีแบบจำเพาะเพื่อทำการแก้ไขได้อย่างแม่นยำ ในบทเรียนนี้จะเป็นการกล่าวถึงเครื่องมือนี้อย่างละเอียดทั้งในภาคของความรู้ที่จำเป็นและการประยุกต์

การเรียกใช้งานเครื่องมือ Color Range จะอยู่ในตัวเลือก Select บนบาร์ด้านบนโปรแกรม (Select > Color Range) ไม่ว่าผู้เรียนจะใช้ Windows หรือ Mac ก็ตาม มีข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวนั่นคือ Color Range ไม่สามารถใช้งานได้กับการทำงานภาพในรูปแบบโหมด 32 บิต

การเปลี่ยนสีใดๆในภาพจึงทำได้ง่ายๆเพียงแค่กำหนดช่วงสีของภาพที่ต้องการ เช่น ผู้สอนต้องการเปลี่ยนเสื้อสีแดงของตัวแบบก็เพียงเรียกเครื่องมือ Color Range ขึ้นมาแล้วทำการระบุสีที่ต้องการแก้ไข จากนั้นจึงทำการแก้ไขขอบให้ดูแนบเนียน แล้วใช้ผสมเข้ากับเครื่องมือเลเยอร์ปรับแต่งเพื่อเปลี่ยนสีในตำแหน่งดังกล่าว

การประยุกต์เครื่องมือดังกล่าวในการแก้ไขภาพบุคคลจึงทำได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย Color Range และประโยชน์ของเครื่องมือที่ว่ายังมีอีกมากเท่าที่จินตนาการของผู้เรียนจะนำไปประยุกต์ใช้

ซึ่งวิธีการใช้งานเครื่องมือ Color Range มีดังนี้ครับ

1 ทำการเลือกเครื่องมือ Color Range โดยไปที่ Select > Color Range

เพิ่มเติม : สำหรับการใช้งานขั้นสูง Color Range สามารถที่ใช้กำหนดระดับความแรงของ Mask ตามความเข้มสีได้ด้วย (กรุณาเรียนในส่วนของหมวดที่ 9 ของหลักสูตร Photoshop CC for Photographer และการประยุกต์ใช้งานในหลักสูตรระดับสูง Photoshop CC for Pro-Retoucher)

2 ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้งานเครื่องมือต่อไปนี้

Skin Tones : เพื่อให้โปรแกรมตรวจสอบสีที่คาดว่าจะเป็นสีผิวของมนุษย์ในภาพ ถ้าหากทำการเปิดใช้โหมด Detect Faces ด้วย จะยิ่งทำให้โปรแกรมตรวจจับหน้าเพิ่มเติมด้วย ทำให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำมากขึ้น
Sampled Colors : เปิดการใช้งาน Eyedropper Tool เพื่อทำการระบุสีที่ต้องการแก้ไขในภาพ และถ้าหากว่าต้องการระบุหลายๆสี ให้เลือก Localized Color Cluster เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้แม่นยำมากขึ้น

3 ด้านส่วนแสดงผล เลือกได้ 2 แบบ

Selection : ส่วนแสดงผลจะแสดงเป็นแบบขาวดำ โดยที่สีขาวหมายถึงส่วนที่ได้ทำการเลือกไว้ และสีดำคือพื้นที่ๆไม่ได้รับผลกระทบจากเครื่องมือ
Image : ส่วนแสดงผลจะแสดงผลแบบรูปภาพ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์แต่ก้มีไว้เพื่อแสดงส่วนที่เลือกหลังจากได้เลือกไปแล้วว่าทำงานเป็นอย่างไร

เพิ่มเติม : กรณีต้องการสลับไปมาระหว่างโหมดแสดงผลแบบ Selection และ Image ให้ลองกด Control [win] | Command [mac] แล้วปล่อยเพื่อสลับไปมา

ตัวเลือก Skin Tones ใน Color Range

4 เพื่อให้เครื่องมือทำการเลือกสี ให้ใช้เครื่องมือ Eyedropper Tool เลื่อนไปชี้ยังภาพในพื้นที่การทำงาน และคลิกลงบนสีที่ต้องการระบุ

สำหรับการปรับแต่งเพิ่มเติมของพื้นที่ๆเลือก ทำได้ดังนี้

เพื่อเพิ่มสีที่ต้องการเข้าไปอีก ให้เลือกเครื่องมือ Eyedropper Tool ที่มีเครื่องหมายบวก แล้วคลิกเลือกสีเพิ่มเติม
เพื่อลบสีที่เลือกมาก่อนหน้า ให้เลือกเครื่องมือ Eyedropper Tool ที่มีเครื่องหมายลบ แล้วคลิกเลือกสีที่ได้ทำการเลือกไว้ก่อนหน้า

เพิ่มเติม : การเปลี่ยนเป็น Eyedropper แบบบวกชั่วคราว ให้กดคีย์ Shift ค้างไว้ ส่วนการเปลี่ยนเป็น Eyedropper แบบลบชั่วคราวให้กดคีย์​ Alt [win] | Option [mac] ค้างไว้

กลุ่มเครื่องมือ Eyedropper Tool เพื่อแสดงกลุ่มตัวอย่างสีที่เลือก

5 การปรับแต่งช่วงสีไม่ว่าจะขยายหรือลดช่วงสีกำหนดได้ที่แถบสไลด์ Fuzziness ค่าดังกล่าวหมายถึงว่าจะให้ช่วงของสีดังกล่าวกว้างออกไปเท่าไร (กรุณาศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Color Dimension) โดยที่ค่าตัวแปร Fuzziness ที่ต่ำจะทำให้ได้สีที่เจาะจงมากขึ้น และค่าตัวแปรที่มากขึ้นจะได้ช่วงสีที่มีความฟุ้งกระจายออกไปยังสีข้างเคียงสีที่ระบุ

ถ้าหากผู้เรียนทำเครื่องหมายที่ตัวเลือก Localize Color Cluster การใช้แถบสไลด์กำหนดช่วงสีจะกลายเป็นการกำหนดระยะห่างของสีข้างเคียงเทียบจากสีที่ระบุ ยกตัวอย่างเช่นการเลือกสีใดสีหนึ่งจากวัตถุท่างกลางฉากหลังสีเดียวในภาพ เครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้เราควบคุมพื้นที่คัดเลือกได้ดีมากยิ่งขึ้น

6 เพื่อแสดงส่วนที่ได้ถูกเลือกในภาพ ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

None : แสดงภาพเดิมๆ
Greyscale : แสดงสีขาวสำหรับส่วนที่ถูกเลือกเต็มๆ, สีเทาสำหรับการถูกเลือกบางส่วนและสีดำสำหรับส่วนที่ไม่ได้ทำการเลือกเลย
Black Matte : โหมดนี้จะเหมาะกับภาพที่สว่างมากๆ เพราะสีค่อนข้างมืด
White Matte : โหมดนี้จะเหมาะกับภาพที่มืดมากๆ เพราะสีค่อนข้างสว่าง
Quick Mask : แสดงสีแจ้งเตือน (ตั้งค่าได้) ในส่วนที่ไม่ได้ถูกคัดเลือก

7 สำหรับการย้อนไปยังพื้นที่ๆได้เลือกก่อนหน้า ให้กด Alt [win]| Option[mac] ค้างไว้แล้วสังเกตที่ปุ่ม Cancle จะกลายเป็นปุ่ม Reset ให้คลิกที่ปุ่มดังกล่าว

8 เพื่อบันทึกหรือโหลดช่วงสีที่ได้ทำการกำหนดเอาไว้ ให้กดที่ปุ่ม Save เพื่อสร้างใหม่ หรือ Load กรณีที่เคยได้บันทึกเอาไว้

เพิ่มเติม : แม้แต่สีผิวจากคำสั่งที่มีให้เลือกก็สามารถบันทึกเป็นแม่แบบเอาไว้ใช้ได้เช่นกัน

เพิ่มเติม : ถ้ามีข้อความปรากฏขึ้นมาว่า “No pixel are more than 50% selected” ขอบของพื้นที่เลือกจะไม่แสดงให้เห็น อาจจะต้องเลือกสีแจ้งเตือนให้เข้มมากพอที่จะมองเห็นพื้นที่เหล่านั้น

การตรวจจับสีผิวสามารถบันทึกเป็นแม่แบบได้ใน Color Range

การบันทึกส่วนของสีผิวเป็นแม่แบบเอาไว้ใช้กับภาพอื่น

เครื่องมือ Color Range สามารถบันทึกค่าต่างๆไว้เป็นแม่แบบไว้ใช้กับภาพอื่นๆได้ อีกทั้งยังสามารถบันทึกร่วมกับตัวเลือกระบุใบหน้า (Detect Faces) เมื่อผู้เรียนได้ทำการเลือกส่วนสีผิว (Skin Tones) หรือ Sampled Colors ได้ด้วย

การบันทึกส่วนสีผิว (Skin Tones) เอาไว้เป็นแม่แบบ

1 เลือก Select > Color Range

2 ในตัวเลือกของกล่องเครื่องมือ Color Range เลือก Skin Tones จากเมนูตัวเลือก

3 เพื่อความแม่นยำให้ทำเครื่องหมายถูกที่ตัวเลือก Detect Faces และปรับแต่งค่าการฟุ้งกระจาย (Fuzziness) อาจจะเลื่อนสไลด์หรือใส่ค่าตัวแปรเข้าไป ตรวจสอบค่าดังกล่าวจากการพรีวิวหรือที่พื้นที่ทำงานเพิ่มเติม

4 พิมพ์ชื่อไฟล์ที่ต้องการบันทึก แล้วกดปุ่ม Save

การเรียกส่วนสีผิวที่ได้ทำการบันทึกเป็นแม่แบบเอาไว้

1 ที่กล่องเครื่องมือ Color Range คลิกที่ปุ่ม Load

2 เลือกไฟล์ที่ได้ทำการบันทึกเอาไว้เพื่อเรียกข้อมูลต่างๆออกมาใช้

[bsa_pro_ad_space id=7] [bsa_pro_ad_space id=8]
บทความที่เกี่ยวข้องในหมวดนี้
3 ตัวอย่างการใช้งานคู่สีตรงข้ามเบื้องต้น

สีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของภาพถ่าย และการเลือกคู่สีรูปแบบใด ๆ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของสุนทรียศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลต่ออารมณ์และกระตุ้นให้เกิดการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง และบทความนี้จะได้กล่าวถึงตัวอย่างง่าย ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้จากการเข้าคู่แบบคู่สีตรงข้าม

ความแตกต่างระหว่างภาพ 8 บิต และ 16 บิต

ภาพถ่ายแบบ 16 บิต มีทางเลือกให้ช่างภาพเวลาตกแต่งแก้ไขอย่างมหาศาล แต่ 8 บิตเองก็มีข้อดีถ้าเรานำมาใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม บทความนี้จึงเป็นการพิสูจน์ความืดหยุ่นและคำแนะนำวิธีเลือกใช้งานที่ถูกต้อง

เกรนกับความคมชัดของภาพถ่าย

ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ

ร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อผู้ก่อตั้ง ‘Dozzo Flamenco’ ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์สื่อการสอนและเทรนนิ่งคลาสระดับคุณภาพเท่านั้น

บทความล่าสุด >>
เคล็ดลับการถ่ายภาพหมู่บุคคล

ศึกษากลวิธีที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักของเหตุและผลในการทำให้ภาพถ่ายหมู่ที่มีบุคคลจำนวนมากในเฟรมมีความน่าสนใจกว่าที่เคย

5 เหตุผลที่ช่างภาพอาชีพควรเรียน Lightroom Classic

Lightroom Classic มีจุดเด่นสำคัญในการบริหารจัดการรูปภาพ ตกแต่งรูปภาพ และเผยแพร่รูปภาพอย่างครอบคลุมทั้งระบบ คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้ช่างภาพมีความสะดวกในการบริหารจัดการยิ่งต้องเจอกับรูปภาพที่เพิ่มเข้ามาจำนวนมากในแต่ละเดือน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า