เครื่องมือคัดเลือกพื้นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถระบุพื้นที่ๆต้องการทำงานแบบเฉพาะเจาะจงได้มากขึ้นโดยที่ไม่ไปส่งผลกระทบกับพื้นที่นอกเหนือจากนั้น ยกตัวอย่างเช่นการทำผิวเนียนก็จะกระทำเฉพาะบริเวณที่เป็นผิวของตัวแบบ ซึ่งใน Photoshop CC มีเครื่องมือคัดเลือกหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความต้องการแบบต่างๆมากมาย เราจึงควรศึกษาเพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการทำงาน
กลุ่มเครื่องมือใช้เฉพาะที่
เครื่องมือคัดเลือกพื้นที่แบบใช้เฉพาะที่การทำงานจะเป็นในลักษณะของการเลือกเครื่องมือดังกล่าวแล้วลากเพื่อกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อปรับแต่ง (Selective & Local Adjustment) ในที่นี้จะกล่าวถึง 3 เครื่องมือคัดเลือกพื้นที่แบบกำหนดอิสระอย่าง Lasso Tool, Polygonal Lasso Tool และ Magnetic Lasso Tool (คีย์ลัด L และสลับวนเครื่องมือ Shift + L) กับอีกสอง 2 มือจำกัดรูปร่างอย่าง Rectangular Marquee Tool และ Eliptical Marquee Tool (คีย์ลัด M และสลับวนเครื่องมือ Shift + M)
บาร์ตัวเลือกของ Lasso Tool และ Polygonal Lasso Tool จะเหมือนกัน
Options Bar ของ Lasso Tool และ Polygonal Lasso Tool จะเหมือนกันนะ
– ได้แก่การกำหนดโหมดการใช้งานดังนี้ A-สร้างใหม่, B-เพิ่มเติม, C-ลบจากที่เลือกไว้ และ D-พื้นที่ซึ่งตรงกันกับที่เลือกไว้ก่อนหน้า, Feather : ค่าการฟุ้งกระจายของขอบ, Anti-Alias : กำหนดความเรียบเนียนขอบ และ Select & Mask กำหนดค่าขอบอย่างละเอียด
บาร์ตัวเลือกที่มีเพิ่มเติมสำหรับ Magnetic Lasso Tool
Options Bar ของ Magnetic Lasso Tool
-Magnetic Lasso Tool ทำงานแบบกึ่งอัตโนมัติ ดังนั้นจึงต้องมีพารามิเตอร์ที่ต้องกำหนดเพิ่มเติม ได้แก่ค่า Width : ค่าความกว้างของขอบ, Contrast : ค่าความเปรียบต่างของขอบภาพที่เลือก, Frequency : ความถี่ในการพิกัดจุดเลือก, และน้ำหนักในการกดจากปากกาสไตลัส กรณีที่ใช้ (Magnetic Lasso Tool ไม่สามารถทำงานได้กับภาพ 32 บิต)
Rectangular Marquee Tool และ Elliptical Marquee Tool
เครื่องมือ Rectangular Marquee Tool และ Elliptical Marquee Tool เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คัดเลือกพิกเซลของพื้นที่แบบพื้นที่แบบคงรูปร่าง นั่นคือพื้นที่แบบสี่เหลี่ยมและวงรี
วิธีการใช้งาน
1 เลือกเครื่องมือกลุ่มคงรูปร่างเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งดังนี้
– Rectangular Marquee : พื้นที่คงรูปร่างลักษณะสี่เหลี่ยม (หรือจัตุรัส เมื่อกดคีย์ Shift ค้างไว้ขณะใช้งาน)
– Elliptical Marquee : พื้นที่คงรูปร่างลักษณะวงรี (หรือวงกลม เมื่อกดคีย์ Shift ค้างไว้ขณะใช้งาน)
Options Bar ของ Rectangular Marquee และ Elliptical Marquee
2 เลือกโหมดอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนดดังนี้ ได้แก่ A-สร้างใหม่, B-เพิ่มเติม, C-ลบจากที่เลือกไว้ และ D-พื้นที่ซึ่งตรงกันกับที่เลือกไว้ก่อนหน้า
3 กำหนดค่าความเรียบเนียน (Anti-Alias) ของขอบเพิ่มเติมได้ที่บาร์ตัวเลือก (Options Bar)
4 รูปแบบของการคัดเลือกพื้นที่จากสองเครื่องมือดังกล่าวกำหนดได้ดังนี้
– Normal : กำหนดขนาดอิสระจากการลาก
– Fixed Ratio : คงสัดส่วนเอาไว้เมื่อกำหนดขนาดค่าสัดส่วนตลอดเวลา
– Fixed Size : คงที่รูปร่างที่ได้กำหนดเอาไว้เมื่อกำหนดขนาดตัวเลขตลอดเวลา
เพิ่มเติม : นอกจากหน่วยพิกเซล (px) แล้วผู้เรียนก็ยังกำหนดค่าหน่วยเป็นเซนติเมตร (cm) และหน่วยนิ้ว (in) ได้ด้วยที่บาร์ตัวเลือก
5 สำหรับการเรียบเรียงพื้นที่เลือกไปตามเส้นไกด์, เส้นกริด หรือขอบเอกสาร ก็ยังทำได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้
– เลือก View > Snap หรือเลือก View > Snap to จากนั้นก็เลือกตามตัวเลือกประกบติดตามที่โปรแกรมมีมาให้
6 ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเลือกพื้นที่ต่อไปนี้
– ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ Rectangular Marquee หรือ Elliptical Marquee ต่างก็ใช้งานเหมือนกัน นั่นคือการคลิกลากจากมุมหนึ่งไปสู่อีกมุมหนึ่งเพื่อครอบพื้นที่ด้วยรูปร่างที่กำหนด
– ระหว่างที่ใช้เครื่องมือหากกด Shift ค้างเอาไว้ เครื่องมือ Rectangular Marquee จะกลายเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และ Elliptical Marquee จะกลายเป็นพื้นที่วงกลม
– แต่ถ้าหากต้องการสร้างรูปร่างโดยเริ่มต้นแบบจุดศูนย์กลาง กว้างออกไปเป็นรัศมีให้กด Alt ค้างเอาไว้สำหรับ Windows และ Option ค้างไว้สำหรับ Mac OS
เพิ่มเติม : การเปลี่ยนตำแหน่งของกรอบที่ได้สร้างไว้นั้น หลังจากที่ปล่อยเมาส์แล้วให้คลิกลากที่กรอบต่อได้เลย
กลุ่มเครื่องมือคัดเลือกพื้นที่อัจฉริยะ
ในโปรแกรม Photoshop CC มีให้เลือกใช้งานด้วยกันอยู่ 2 ตัว ซึ่งได้แก่ Quick Selection Tool และ Magic Wand Tool ซึ่งทั้งสองเครื่องมือนี้ถึงจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้างแต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำงานได้ต่างกันไป
Quick Selection Tool
เครื่องมือ Quick Selection Tool มีการใช้งานง่ายๆโดยการคลิกลากแบบหยาบๆจากจุดที่ต้องการให้โปรแกรมวิเคราะห์ เครื่องมือนี้จะทำงานในขอบเขตที่กำหนดตามการตั้งค่าความละเอียดของขอบสีเอาไว้
วิธีการใช้งาน
1 คลิกที่เครื่องมือ Quick Selection Tool หรือกดคีย์ (W) ที่คีย์บอร์ด หรือกด Shift + W เพื่อสลับจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นเครื่องมือดังกล่าว
2 ที่บาร์ตัวเลือก (Option Bar) ผู้เรียนสามารถกำหนดโหมดของเครื่องมือได้ว่าจะให้การใช้งานเครื่องมือครั้งต่อไปเป็นโหมดใด ไม่ว่าจะเป็นโหมดเพิ่มพื้นที่ใหม่ยกเลิกของเดิม (New), เพิ่มเติมพื้นที่ (Add) หรือโหมดกำจัดพื้นที่เลือกก่อนหน้า (Subtract)
3 การกำหนดขนาดของแปรงกำหนดพื้นที่เปลี่ยนได้ที่บาร์ตัวเลือกเช่นกัน และยังใช้คีย์ลัด ‘[‘ หรือ ‘]‘ เพื่อลดหรือเพิ่มขนาดหัวแปรง นอกจากนี้ความหนักเบายังขึ้นอยู่กับอุปกรณ์การใช้งานอย่างปากกาแสง (Pen Pressure) หรือพวกล้อหมุนเมาส์ที่มีลูกเล่นน้ำหนักกดได้ด้วย (Stylus Wheel)
4 โหมดตัวเลือกเพิ่มเติมที่บาร์ตัวเลือก (Option Bar) > Sample All Layers : การทำงานแบบไม่คำนึงถึงระดับชั้นเยอร์ เช่นถ้าใช้งานที่เลเยอร์บนสุด การคัดเลือกพื้นที่จะส่งผลกับเลเยอร์ทุกชั้น, Auto Enhance : โหมดสำหรับการลดความหยาบและเหลี่ยมโพลิกอนที่เกิดจากการคัดเลือกพิกเซล โดยที่โปรแกรมจะทำการเพิ่มความฟุ้งและความต่อเนื่องมุมขอบของพื้นที่คัดเลือกเพื่อความเรียบเนียน
5 ใช้งานโดยการลากระบายพื้นที่ๆต้องการ โปรแกรมจะทำการกำหนดสีใกล้เคียงเพื่อคำนวนพื้นที่น่าจะเป็นของวัตถุชนิดเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นการลากระบายเพื่อกำหนดกรอกของลูกบอลสีแดงในฉากขาว โปรแกรมจะหาสีแดงทั้งหมดในขอบเขตการเลือก
ลากพื้นที่จากภายในเพื่อครอบคลุมส่วนที่ต้องการ
เพิ่มเติม : ถ้าผู้เรียนหยุดในขณะที่เลือกพื้นที่แล้วคลิกลากใหม่ พื้นที่ใหม่จะผสมไปกับพื้นที่เก่าแต่ก็สามารถกำหนดทางเลือกเพิ่มเติมได้ดังนี้
– เพื่อทำการลดพื้นที่เก่าให้ทำการเลือกตัวเลือกสัญลักษณ์พู่กันเครื่องหมายลบ (Subtract From Option) แล้วลากพื้นที่เพื่อลบพื้นที่ๆเลือกไว้ได้ด้วย
– หรือถ้าเพียงต้องการสลับไปสู่โหมดการลบพื้นที่ชั่วคราวเท่านั้น ให้กด Alt (win) | Option (mac) ค้างไว้แล้วทำการเลือก เมื่อต้องการสลับมาสู่โหมดเดิมก็ยกเลิกการกดค้างเอาไว้ได้
– วำหรับการเปลี่ยนสัญลักษณ์เคอร์เซอร์ สำหรับ Windows ให้ไปที่ Edit > Preferences > Cursors > Painting Cursors แต่ถ้าเป็น Mac OS ให้ไปที่ Photoshop > Preferences > Cursors > Painting Cursors
Magic Wand Tool
เครื่องมือ Magic Wand Tool เป็นการทำงานแบบคลิกเดียวแล้ววิเคราะห์พิกเซลสีที่มีความคลายคลึง โดยที่มีตัวแปรควบคุมอย่างค่า Tolerance เพื่อหาค่าพื้นที่ความสัมพันธ์ใกล้เคียง
วิธีการใช้งาน
ข้อควรระวัง : ผู้เรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ Magic Wand Tool กับภาพแบบ 32 บิต หรือภาพที่กำลังรันในโหมดบิตแมป (Bitmap)
1 ทำการเลือกเครื่องมือ Magic Wand Tool ก่อน ซึ่งถ้าหาไม่เจอเครื่องมือนี้จะซ่อนอยู่ในตัวเลือก Quick Selection Tool (ลองกด Shift + W เพื่อสลับเครื่องมือดู)
2 ที่บาร์ตัวเลือก (Options Bar) จะมีโหมดให้เลือกอยู่ด้วยกัน 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ A – เลือกพื้นที่ใหม่, B – ผสมพื้นที่เก่า, C – ลบพื้นที่เก่า D – เลือกพื้นที่ซ้อนทับกับพื้นที่เดิม
3 ตัวเลือกเพิ่มเติมที่ Options Bar มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
– Tolerance : ค่าการคำนวนช่วงสีจากพิกเซลที่ทำการเลือก มีด้วยกันทั้งหมด 256 ช่วง (0-255) โดยที่ค่าตัวแปรต่ำสุดจะทำการคำนวนช่วงสีที่แคบ และตัวเลขที่มากขึ้นโปรแกรมจะคำนวนตัวแปรสีใกล้เคียงเพิ่มเข้ามาให้มากขึ้น
– Anti-Aliased : ขอบของพื้นที่คัดเลือกจะมีความนุ่มนวลและเรียบเนียนมากขึ้น
– Contiguous : เลือกเฉพาะพื้นที่ๆติดกันเท่านั้น
– Sample All Layers : การทำงานแบบไม่คำนึงถึงระดับชั้นเยอร์ เช่น ถ้าใช้งานที่เลเยอร์บนสุดการคัดเลือกพื้นที่จะส่งผลกับเลเยอร์ทุกชั้น
4 เริ่มการใช้งานได้เพียงคลิกลงไปยังจุดพิกเซลสีที่ต้องการทำการคัดเลือก โปรแกรมจะทำการคำนวนและเลือกพื้นที่ๆเกี่ยวข้องกับค่าที่กำหนดใน Options Bar ทันที
จิ้มเพียงครั้งเดียวเพื่อกำหนดพื้นที่
5 ถ้าต้องการกำหนดค่าขอบให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ให้กดที่ปุ่ม Select & Mask เพื่อกำหนดค่าขอบเพิ่มเติมด้วย แต่จะต้องมีความรู้ในส่วนนี้เพิ่มเติมซึ่งจะได้ศึกษาต่อไปในบทเรียนของหลักสูตรนี้
กลุ่มฟิลเตอร์
เครื่องมือคัดเลือกพื้นที่ในกลุ่มฟิลเตอร์นี้จะเป็นการกำหนดค่าพารามิเตอร์ลงในตัวเลือกที่ฟิลเตอร์มีมาให้เพื่อหาพื้นที่ๆกำหนด การใช้งานนั้นจึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจความหมายของค่าต่างๆ ซึ่งในกลุ่มนี้ผู้สอนจะขอยกตัวอย่างให้เห็น 2 ฟิลเตอร์ด้วยกัน ได้แก่ Color Range และ Focus Area
Focus Area
มีไว้เพื่อเลือกพื้นที่ๆมีความเปรียบต่างของกลุ่มพิกเซลที่มากกว่าจุดอื่น ซึ่งนั่นก็คือการหาพื้นที่โฟกัสซึ่งมีความคมชัดมากที่สุดในภาพนั่นเอง ทำให้ประโยชน์ของฟิลเตอร์ดังกล่าวมักจะใช้เพิ่มความโดดเด่นของภาพร่วมกับการปรับแต่งในรูปแบบต่างๆ หรือช่วยหาพื้นที่คมชัดโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือที่มีความยุ่งยากได้ในหลายกรณี (ไปที่ Select > Focus Area)
Focus Area