เราสามารถเรียกเครื่องมือกำหนดขนาดได้โดยไปที่เมนูบาร์ด้านบน เลือก Image > Image Size… หรือใช้คีย์ลัด Control + Alt + I [win] | Command + Option + I [mac] เพื่อเรียกหน้าต่างดังกล่าวขึ้นมา โดยที่หน้าต่างนี้จะเป็นตัวที่ใช้กำหนดขนาดใหม่ของภาพ, ความละเอียดของภาพ และ ความรูปแบบความเฉียบแหลมของภาพด้วยการเรียงตัวพิกเซลใหม่ตามปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบคำสั่งที่มีไว้ให้เลือก

Image > Image Size…
การทำความเข้าใจตัวเลือกต่างๆใน Image Size ควรมีพื้นฐานเกี่ยวกับความเข้าใจของ ‘ภาพถ่ายดิจิตอล’ แล้วจะผ่านส่วนนี้ไปได้ไม่ยาก

Image Size – กำหนดขนาดของภาพใหม่
Image Size : ผลคูณของมิติภาพ กว้าง x สูง
Dimensions : ทิศทางของภาพ มี 7 ตัวเลือกได้แก่ เปอร์เซ็นต์, พิกเซล, นิ้ว, เซ็นติเมตร, มิลลิเมตร, จุด และ ไพก้า
Fit to : รูปแบบของภาพหลังจากปรับขนาดว่าจะให้ตรงตามแบบใด มีแม่แบบหลายตัวเลือกให้ใช้ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีที่เรียกใช้บ่อย เช่นจะย่อภาพพิมพ์โปสการ์ด สามารถบันทึกและเรียกข้อมูลเก่าที่เคยตั้งเอาไว้ในส่วนนี้มาใช้งานในภาพยหลังได้
Width : ความกว้างของภาพ
Height : ความสูงของภาพ
Resolution : ความหนาแน่นของพิกเซล มีสองหน่วยให้เลือก คือ ต่อ 1 นิ้ว และ ต่อ 1 เซนติเมตร
ตัวเลือกการจัดเรียงพิกเซลหลังมีการปรับขนาดเพราะถ้าขยายจะต้องมีพิกเซลที่สร้างใหม่ขึ้นมาโดยอ้างอิงข้อมูลเดิมที่มี หรือย่อขนาดก็ต้องมีการลบพิกเซลออกไปซึ่งจะส่งผลกระทบของภาพอย่างแน่นอน การจัดเรียงพิกเซลใหม่จึงมีผลต่อค่า ‘ความเฉียบแหลม’ (Acutance) ของภาพโดยตรง โดยที่ Adobe มีมาให้ 8 ทางเลือก แยกตามหมวดดังต่อไปนี้

เหมาะสมกับภาพที่มีความละเอียดต่ำและต้องการขยายใหญ่ขึ้นเช่นภาพโปสเตอร์ ผลกระทบของตัวเลือกนี้คือความเปรียบต่างที่เพิ่มขึ้นของสีส่วนกลาง (Clarity) รายละเอียดและความคมชัดจะรักษาไว้ได้ดีแต่จะต้องมีการปรับลดอาการคลื่นรบกวนในภาพเพิ่มเติม
เทคโนโลยีแบบใหม่ที่ใช้ในการขยายภาพแบบ Deep-Learning ของปัญญาประดิษฐ์ที่พยายารักษาค่าเฉลี่ยของภาพไม่ให้คมหรือเบลอมากจนเกินไป
เน้นความเรียบเนียนและความนุ่มของภาพโดยส่วนมาก เนื่องจากการขยายภาพจะทำให้พิกเซลแตกออกและมองเห็นความแตกต่างของสีในแต่ละจุดได้ แต่ข้อเสียก็มีอยู่บ้างตรงที่ทำให้จุดความคมชัดของภาพหลายจุดเสียหายไป
เป็นประเภทที่ไม่ค่อยแนะนำจะให้ใช้นักเนื่องจากจะทำให้ภาพคมเพิ่มซึ่งโดยปกติเรามักจะทำกระบวนการปรับคมอยู่แล้ว ให้ย่อภาพด้วยวิธีการปกติ
เหมาะกับภาพถ่ายทุกประเภทและเป็นตัวเลือกที่ควรเลือกใช้หากไม่รู้ว่าจะใช้ Bicubic Smoother หรือ Bicubic Sharper แต่จะประมวลผลช้ากว่าทั้งสองแบบนิดหน่อยเพื่อแลกกับความแม่นยำในการจัดระเบียบพิกเซลใหม่ขึ้นมา
เหมาะกับภาพกราฟฟิกที่มีเส้นสายชัดเจนเพราะตัวเลือกนี้จะทำการเน้นหนักบริเวณขอบภาพเป็นหลัก ทำงานรวดเร็วแต่ไม่ละเอียด ความแม่นยำต่ำและคุณภาพต่ำ
เป็นตัวเลือกแบบให้ผลลัพธ์ของภาพกลางๆไม่ค่อยเป็นที่นิยม กระบวนการทำงานคือโปรแกรมจะวิเคราะห์พิกเซลตัวอย่างขึ้นมาและเทียบกับพิกเซลซ้ายและขวา โดยอาศัยแนวคิดการดุลน้ำหนักภาพและสีสัน
ไปที่ Photoshop CC > Preferences > General [mac] หรือ File > Preferences > General [win] หรือกดคีย์ Control + K [win]/Command + K [mac] เพื่อเปิดกล่องการตั้งค่าทั่วไปขึ้นมา จากนั้นให้เลือกค่าที่ต้องการใช้เป็นประจำในแบบอัตโนมัติที่ Image Interpolation โดยที่กระบวนการที่เลือกนี้จะปรากฏขึ้นเป็นค่ามาตรฐานทุกครั้งเมื่อเรียกใช้

กำหนดค่าตั้งต้นการเรียงพิกเซลใหม่ได้ที่ Preferences