Channel Mixer มีความโดดเด่นตรงที่สามารถติดตามการล้นของค่าสมดุลที่มีในภาพเป็นเปอร์เซ็นต์ เราจะรู้ได้ทันทีว่าเพิ่มค่าไปเท่าไรและควรจะทดกลับมาเท่าไร (แต่ก็ไม่ต้องไปแคร์อะไรมากเพราะภาพไม่ได้ดีเพราะการล้นไม่ล้นสักหน่อย) สำหรับการเริ่มใช้งาน Channel Mixer สำหรับการทำภาพขาวดำดูจะเป็นการเรียนจากจุดที่ยากกว่าสักนิด เพราะเราต้องมีจินตนาการพอสมควร
การเรียน Channel Mixer ให้เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงการเรียนหลักการทางทฤษฎีสี เพราะ Photoshop เองก็ใช้รูปแบบสี ทั้งแบบแสงสี และแบบวัตถุธาตุ ซึ่งถ้าอยากศึกษาเชิงลึกเพิ่มเติม หลักสูตร ทฤษฎีสีในการถ่ายภาพดิจิตอล จาก DozzDIY ก็มีส่วนนี้ไว้สำหรับผู้ที่อยากเก่งกาจในสายงานด้านการใช้สี
ทำการเปิดภาพที่เราต้องการนำมาแปลงเป็นขาวดำให้เรียบร้อย จากนั้นไปที่ Image > Adjustments > Channel Mixer… เครื่องมือจะปรากฎดังภาพ ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก ให้จดจำภาพตอนที่ยังเป็นสีให้ดีแล้วทำเครื่องหมายถูกที่ Monochrome ภาพจะกลายเป็นขาวดำ และที่ตัวเลือก Output Channel จะเป็นคำว่า Grey
Image > Adjustments > Channel Mixer…
สเกลแต่ละสเกลมีความหมายดังนี้
Red : เป็นการเพิ่มลดความสว่างของส่วนที่เคยมีการผสมอยู่ของสีแดง (Red) และ สีฟ้า (Cyan)
Green : เป็นการเพิ่มลดความสว่างของส่วนที่เคยมีการผสมอยู่ของสีเขียว (Green) และ สีม่วงแดงมาเจนตา (Magenta)
Blue : เป็นการเพิ่มลดความสว่างของส่วนที่เคยมีการผสมอยู่ของสีน้ำเงิน (Blue) และ สีเหลือง (Yellow)
Constant : เป็นการกำหนดค่าความขาวที่สุดหรือต่ำที่สุดให้กับภาพใหม่ ค่าดังเดิมคือ 0 เท่ากับไม่ปรับอะไรเลย
Channel Mixer และสเกลที่มีให้ใช้
ไม่จำเป็นว่าค่าผลรวมต้องเป็น 100% ตามที่โปรแกรมกำหนดไว้ เพราะโปรแกรมไม่ทราบได้ว่า 100% นั้นคือภาพที่สวยงามเพราะอย่างไรแล้วการปรับขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ซึ่งการปรับด้วย Channel Mixer หลักๆใช้ในการใช้งานเปลี่ยนสี แต่นี่คือภาพขาวดำจะไม่ต้องพิจารณาอะไรมากเท่าไรนัก
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
อุปกรณ์รับชมภาพถ่ายไม่ว่าจะเป็นหน้าจอหรือกระดาษต่างก็มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดสีสันรวมไปถึงจุดสว่างที่สุดไปยังจุดมืดที่สุดในภาพแตกต่างกัน การแสวงหาความถูกต้องที่สุดในการมองเห็นแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่หาความเป้นมาตรฐานได้ยาก แต่เราก็ยังพอรับรู้ได้ว่าอะไรคือขีดสุดของรายละเอียดที่กำลังปรากฏในขณะนั้นก่อนจะนำไปสู่อุปกรณืหรือแหล่งเผยแพร่อื่น ดังที่เรียกว่า จุดล้นของภาพ หรือ Clipping Point ใน Adobe Camera RAW นี้
หลายครั้งที่คุณสมบัติปัญญาประดิษฐ์อย่าง Denoise ปิดกั้นหนทางลดน้อยส์เกินไป ถึงเวลาแล้วที่เราจะลดน้อยส์ด้วยธีที่ละเอียดมากกว่าอย่าง Manual Noise Reduction
ร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อผู้ก่อตั้ง ‘Dozzo Flamenco’ ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์สื่อการสอนและเทรนนิ่งคลาสระดับคุณภาพเท่านั้น
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
เรื่องของคู่สีรายล้อมรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา และ ‘คู่สีตรงข้าม’ (Complementary Colors) ก็จัดว่าเป็นการเข้าคู่ที่รุนแรงและทรงพลังอย่างมาก หากจะหยิบมาเพื่อใช้งานต้องเรียนรู้และเข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบบางประการจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
