อีกทั้งหนังสือที่วางขายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นของต่างประเทศหรือไทยเราเองก็จัดเรียงโดยเน้นสิ่งที่เป็นระดับอนุภาคของเรื่องมาก่อน เช่น การเริ่มเรียนในสิ่งที่ไม่กระตุ้นความใคร่รู้ของผู้เรียนอย่างบาร์เครื่องมือ ทำให้การศึกษาที่เกิดขึ้นนั้นจึงยังไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้เรียนโดยตรงแต่ต้องอาศัยเวลาไปอีกสักระยะ ตรงนี้ทำให้เกิดความท้อแท้ในการเรียนได้มาก
คุณจะรู้สึกอย่างไรล่ะ..? ถ้าสิ่งที่ต้องการในขณะนั้นคือการลบสิวบนในหน้า
แต่บทที่หนึ่งของหนังสือสอนประวัติความเป็นมาโปรแกรม จะข้ามก็ไม่ได้เพราะเป็นบทแรก กลัวข้ามไปแล้วไม่รู้เรื่อง
รูปแบบการศึกษาที่คุณจะพบได้จาก DozzDIY เป็นการจัดการเนื้อหาที่สอนในแบบเน้นความสำคัญจากใจกลาง เนื้อหาแรกที่ทุกคนจะได้เรียนใน DozzDIY จึงไม่ใช่เครื่องมือหรือความเป็นมา แต่เป็นการเข้าใจสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมทั้งหมดของโปรแกรมว่ามีไว้ทำไม จะช่วยลดเวลาในการทำงานของเราได้ด้วยอะไร และแนวคิดรวบยอดในการแก้ปัญหาแต่ละบทแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง มันจึงตรงและจี้จุดที่ผู้เรียนพบอย่างแรง
อีกทั้งถ้าส่วนใดต้องใช้ทักษะอื่นๆในการเรียน เราจะระบุเลยว่าที่คุณเรียนไม่รู้เรื่องต้องไปตามเก็บหน่วยการศึกษาใดจึงจะครบถ้วน
เพราะ Adobe Photoshop CC ถูกสร้างมาเพื่อรอบรับขอบเขตการทำงานที่กว้างมากๆ อีกทั้งเราก็ไม่ได้เรียนไปเพื่อสร้างวัตถุสามมิติหรือวาดภาพ การเรียนในช่วงแรกจึงต้องเข้าใจตำแหน่งโครงสร้างและการทำงานอย่างง่ายๆ ให้รู้ว่ากลุ่มเครื่องมือต่างๆคืออะไร เรียกใช้ยังไง ถ้าทำหายหรือแก้ไขหน้าตาโปรแกรมจนพังจะเรียกกลับยังไงซึ่งไม่ยากเลย เรียนรู้ระบบไฟล์ภาพอีกนิดหน่อย และส่วนที่รับผิดชอบแก้ไขภาพถ่ายก็พอ
กำหนดโครงสร้างเครื่องมือพื้นฐานได้ที่ Window > Workspace
คนเราเวลาเป็นผื่นคันขึ้นมาถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ต้นเหตุ เช่น เกิดจากการนอนไม่พอ, กินอาหารไม่มีประโยชน์, เครียดสะสม ฯลฯ อาการเหล่านี้ก็ต้องกลับมาเป็นอีก การเรียนก็ไม่ต่างกันเท่าไร ถ้าทุ่มเวลาไปกับสิ่งที่ยังไม่จำเป็นหรือไร้ประโยชน์ในเวลานั้นแก่นของปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข ระบบเลเยอร์ใน Photoshop CC นับเป็นความสำคัญประการแรกเนื่องจากมันทำให้ Photoshop CC มีความทรงพลังเกินกว่าที่โปรแกรมทั่วไปจะทำได้ และมีความจำเป็นอย่างมากในงานที่มีความยากระดับกลาง-สูง ซึ่งน่าเสียดายอย่างมากที่ความรู้ส่วนนี้ในการศึกษาตามที่ต่างๆกลับเป็นส่วนที่เกือบจะจบอยู่แล้วเพิ่งจะเอามาสอนน่ะสิ
ระบบเลเยอร์ทำให้ Photoshop CC เหนือกว่าโปรแกรมอื่นที่ไม่มี
พอได้ฐานความรู้ความเข้าใจเลเยอร์ทั้งหมดแล้ว การเสริมเขี้ยวเล็บด้วยเครื่องมือตกแต่งหรือฟิลเตอร์จึงเป็นความสำคัญขั้นต่อมา ลองนึกภาพคนที่ใช้การปรับแต่งแบบทั้งภาพ โดยที่เลือกไม่ได้เลยว่าจะให้เฉพาะส่วนใดเกิดผลเทียบกับคนที่ควบคุมมันได้อย่างอิสระ นั่นจึงเป็นการใช้อานิสงฆ์ของการเรียนระบบเลเยอร์มาต่อยอดลูกเล่นพวกนี้ให้ก้าวกระโดดเกิดเป็นเทคนิคใหม่ๆได้อย่างไม่รู้จบนั่นเอง
ตัวอย่างฟิลเตอร์ Iris Blur จาก Blur Gallery
อันที่จริงถ้าจะเรียนแค่เอาไปแต่งภาพแค่ความรู้ระดับที่ 3 ก็เกินพอ แต่ถ้าอยากเหนือชั้นขึ้นไปอีกก็ให้ศึกษาเครื่องมือและศาสตร์อื่นๆเข้ามาประยุกต์ใช้กับโปรแกรม ยกตัวอย่าง เช่น ช่างแต่งหน้าจะสามารถเรียน Photoshop CC สำหรับการรีทัชได้ดีกว่าคนที่ถ่ายภาพธรรมดาๆแล้วเรียน ก็เพราะว่าเขามีประสบการณ์เกี่ยวกับการแต่งหน้ามาจนเข้าใจแล้วว่าการวางโครงหน้าหรือแสงและเงาควรจะเป็นแบบไหน ก่อให้เกิดความรู้ในระดับ ‘เฉพาะทางพิเศษ’ ขึ้นมา จะเรียกว่าเป็นความชำนาญพิเศษที่สร้างความได้เปรียบในสายงานนั้นก็ได้
ทั้งหมดนี้จึงเป็น ‘การจัดการหลักสูตร’ ที่เรายึดไว้เป็นแนวทางว่าได้ผลดีในการเรียนมากที่สุดและลดระยะเวลาในการศึกษาลงได้อย่างมากที่สุด ผู้ที่เรียนกับ DozzDIY จึงไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไม่จำเป็น ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความพิเศษกว่าที่ใดๆ เพียงแต่เรา ‘โฟกัส’ กับเรื่องที่สนใจได้มากเพียงพอ และพุ่งเข้ามามันอย่างไม่ลังเล จึงสรุปออกมาเป็นการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่อยากเรียนนั่นเอง
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
สิ่งที่ได้จากการใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเดียวไปสักระยะจะส่งผลต่อช่างภาพมือใหม่เพื่อฝึกฝนความอดทนและทลายขีดจำกัดของเลนส์ตัวนั้นได้อย่างไร เราจะได้เจาะลึกถึงการเติบโตด้วยข้อจำกัดเหล่านี้กัน
อุปกรณ์รับชมภาพถ่ายไม่ว่าจะเป็นหน้าจอหรือกระดาษต่างก็มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดสีสันรวมไปถึงจุดสว่างที่สุดไปยังจุดมืดที่สุดในภาพแตกต่างกัน การแสวงหาความถูกต้องที่สุดในการมองเห็นแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่หาความเป้นมาตรฐานได้ยาก แต่เราก็ยังพอรับรู้ได้ว่าอะไรคือขีดสุดของรายละเอียดที่กำลังปรากฏในขณะนั้นก่อนจะนำไปสู่อุปกรณืหรือแหล่งเผยแพร่อื่น ดังที่เรียกว่า จุดล้นของภาพ หรือ Clipping Point ใน Adobe Camera RAW นี้
ร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อผู้ก่อตั้ง ‘Dozzo Flamenco’ ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์สื่อการสอนและเทรนนิ่งคลาสระดับคุณภาพเท่านั้น
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
เรื่องของคู่สีรายล้อมรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา และ ‘คู่สีตรงข้าม’ (Complementary Colors) ก็จัดว่าเป็นการเข้าคู่ที่รุนแรงและทรงพลังอย่างมาก หากจะหยิบมาเพื่อใช้งานต้องเรียนรู้และเข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบบางประการจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
