มักจะมีผู้เรียนของ DozzDIY สอบถามเข้ามาเป็นประจำว่าอยากจะทำโทนให้ได้ในแบบต่างๆต้องทำอย่างไรบ้าง บางครั้งก็อยู่ในรูปแบบแนวคิดคร่าวๆเช่น “อยากได้โทนสว่างๆ” หรือ “ขอแบบดูแพงๆ” ซึ่งบางครั้งเราก็นึกไม่ออกว่าเป็นแนวการแต่งภาพแบบไหน หลังจากปรึกษากันเองระหว่างทีมงาน บทความนี้เลยสรุปขั้นตอนในการทำโทนภาพใน Lightroom เบื้องต้นที่น่าจะพอช่วยให้เราได้แนวคิดคร่าวๆว่ามีขั้นตอนอย่างไร
ก่อนจะเริ่มต้นทำโทนใน Lightroom คิดว่าหลายๆคนคงจะต้องเคยเห็นภาพที่ทำให้เรารู้สึกว่า “เราอยากแต่งภาพแนวแบบนี้บ้าง” ดังนั้นมันคงจะดีหากเรามีภาพที่เราตั้งไว้เป็นเป้าหมายว่าจะแต่งภาพให้ได้แบบนี้ หรืออย่างน้อยใกล้เคียงก็ยังดีจริงไหมครับ? ตัวอย่างคือภาพด้านล่างที่ DozzDIY นำมาใช้ในการออกแบบชุดสีที่วางขายในร้านค้าของเรา
ภาพจากภาพยนต์เรื่อง Indiana Jones and the Temple of Doom ที่มา Blogspot
ภาพข้างต้นถูกนำมาใช้ในการออกแบบชุดสี The Adventure
หลังจากได้ภาพตัวอย่างมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเราต้องวิเคราะห์ภาพตัวอย่างที่เราได้มาว่ามีการตกแต่งอะไรบ้าง เราจึงขอแบ่งหัวข้อของสิ่งที่เราควรสังเกตไว้คร่าวๆดังนี้
หลังจากวิเคราะห์ภาพแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องทำความเข้าใจคือเครื่องมือในโปรแกรมที่เราสนใจจะใช้ในการตกแต่งภาพ ในบทความนี้ผมขอยกตัวอย่างเครื่องมือมาจาก Adobe Lightroom ที่มักจะใช้งานบ่อยๆในการทำภาพครับ
เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากๆในการทำภาพให้มีสีตามลักษณะที่เราต้องการ โดยเครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถควบคุมสีข้างเคียง (Hue) ความสว่าง(Luminance) รวมถึงความอิ่มตัว (Satuation) เครื่องดังกล่าวเรามักจะพบในภาพถ่ายที่ต้องการบิดสีใดสีหนึ่งให้แตกต่างจากเดิมเป็นพิเศษ
จะเห็นได้ว่าภาพทางด้านขวาสีเขียวจะถูกบิดไปให้มีความเข้มมากขึ้นจากค่า HSL
เครื่องมือ Split toning ใน Lightroom เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราแทรกสีต่างๆไปยังพื้นที่ส่วนที่สว่างและส่วนที่มืดของภาพได้ เราสามารถอาศัยความรู้เรื่องทฤษฎีสีมาช่วยทำให้ภาพโดดเด่นมากขึ้นอีกด้วย
จากภาพข้างต้นจะเห็นว่าในส่วนมืดของภาพจะมีสีเขียวผสมอยู่ด้วยที่เกิดจากการใช้ split toning โดยอาศัยความรู้เรื่องคู่สีตรงกันข้าม (Split complementary)
ถ้าใครได้อ่านบทความของ DozzDIY บ่อยๆน่าจะพอคุ้นเคยกับคำว่าโทนเคิร์ฟที่เราเน้นถึงความสำคัญในการแต่งภาพ Lightroom และทำโทนในภาพถ่าย เครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับส่วนมืดและส่วนสว่างของภาพได้ดีและยืดหยุ่นกว่าการปรับด้วยค่าต่างๆ
สำหรับภาพบางภาพการปรับแต่งเส้นโทนเคิร์ฟก็เพียงพอที่จะช่วยให้ได้ภาพตามที่เราต้องการแล้วเช่น ภาพสว่างใสหรือภาพที่มีลักษณแบบภาพถ่ายจากฟิล์มซึ่งบางคนเรียกว่าภาพโทนฟิล์ม
การทำโทนใน Lightroom หากไม่ใช้เส้นโทนเคิร์ฟเข้าช่วยคงยากแน่ๆ
นอกจากเครื่องมือที่ยกมาตามข้างต้นแล้วยังมีอีกหลายเครื่องมือเช่น Grain ที่มักถูกใช้ในการแต่งภาพโทนฟิล์ม หรือ Camera calibration สำหรับการแก้สีของกล้องแต่ละรุ่นให้เป็นตามที่เราต้องการ
หลังจากปรับแต่งภาพของเราให้มีความใกล้เคียงกับภาพตัวอย่างตามที่เรากำหนดไว้แล้วซึ่งแน่นอนว่าในครั้งแรกภาพที่เราได้อาจจะไม่ตรงตามความต้องการมากนัก เราอาจจะต้องมานั่งตอบคำถามตัวเองว่า เราพอใจกับภาพที่เราได้มาหรือยัง หากไม่ก็ควรที่จะลงมือปรับแก้ให้ได้อย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะการตกแต่งภาพถ่ายหรือทำโทนภาพก็สุดแล้วแล้วแต่เราจะเรียกนั้นไม่มีผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับความต้องการและจินตนาการของเรา
หากเราทำตามวิธีข้างต้นแล้วพบกับปัญหาที่ว่า ยังไม่สามารถทำภาพได้ตามที่ต้องการ หรือ ไม่รู้ว่าจะแต่งภาพแนวไหนดี? นั่นหมายความว่าความรู้เข้าใจในการใช้เครื่องมือรวมถึงแนวคิดในการตกแต่งภาพถ่ายของเราที่มีตอนนี้อาจจะยังไม่มากพอที่จะช่วยเสริมเติมแต่งจินตนาการของคุณให้สำเร็จ ดังนั้นการหาความรู้เพิ่มเติมหรือแรงบันดาลใจใหม่ๆจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการผลักดันความสามารถของคุณไปยังอีกระดับหนึ่ง
ที่ DozzDIY เราสอนหลักสูตรทฤษฎีสีในการถ่ายภาพดิจิตอล
จากข้างต้นพอจะเห็นได้ว่าแนวคิดคร่าวๆในการทำโทนของภาพถ่ายจะต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้างและประกอบด้วยความรู้อะไรที่จำเป็นในการตกแต่งภาพให้ได้อย่างที่เราต้องการ ทั้งนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือความอุตสาหะและหมั่นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ 🙂
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
สิ่งที่ได้จากการใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเดียวไปสักระยะจะส่งผลต่อช่างภาพมือใหม่เพื่อฝึกฝนความอดทนและทลายขีดจำกัดของเลนส์ตัวนั้นได้อย่างไร เราจะได้เจาะลึกถึงการเติบโตด้วยข้อจำกัดเหล่านี้กัน
หลายครั้งที่คุณสมบัติปัญญาประดิษฐ์อย่าง Denoise ปิดกั้นหนทางลดน้อยส์เกินไป ถึงเวลาแล้วที่เราจะลดน้อยส์ด้วยธีที่ละเอียดมากกว่าอย่าง Manual Noise Reduction
ร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อผู้ก่อตั้ง ‘Dozzo Flamenco’ ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์สื่อการสอนและเทรนนิ่งคลาสระดับคุณภาพเท่านั้น
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
เรื่องของคู่สีรายล้อมรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา และ ‘คู่สีตรงข้าม’ (Complementary Colors) ก็จัดว่าเป็นการเข้าคู่ที่รุนแรงและทรงพลังอย่างมาก หากจะหยิบมาเพื่อใช้งานต้องเรียนรู้และเข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบบางประการจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
