วิธีการที่ช่วยให้เราติดตั้งโปรแกรมใดๆจากทาง Adobe อย่างสะดวกที่สุดจำเป็นที่จะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ศูนย์กลางการติดตั้ง‘ หรือ Adobe Application Manager ไว้ในเครื่องเสียก่อน ซึ่งเจ้าสิ่งนี้จะผูกพันธ์กับบัญชี Adobe ID ที่เราสมัครไว้ว่ากำลังอยู่ในแผนการชำระโปรแกรมอะไรไปบ้าง ทำให้เกิดความสะดวกอย่างมากในการอัปเดตและดูโปรไฟล์บัญชีตัวเองได้โดยไม่ต้องเข้าไปที่เว็บทางการของ Adobe บ่อยๆ
สมัคร Adobe ID > ชำระเงินตามโปรแกรมที่เช่าซื้อ > ดาวน์โหลด Creative Cloud Desktop
อาจสรุปเป็นขั้นตอนใหญ่ๆได้ 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1.ดาวน์โหลด Adobe Application Manager มาติดไว้ในเครื่องให้ได้เป็นอย่างแรก 2.สมัคร Adobe ID และเลือกแผนการเช่าซื้อโปรแกรม และ 3.ดาวน์โหลดโปรแกรมจากทางAdobe ตามที่เราซื้อไว้ผ่านทาง Adobe Application Manager
การสร้างบัญชี Adobe ID จะเริ่มต้นที่เว็บไซต์ www.adobe.com เป็นลำดับแรก ให้มองทางขวาบนสุดของจอจะเห็นคำว่า Sign In เมื่อคลิกไปแล้วจะเป็นหน้าการเข้าสู่ระบบ (แต่ว่าเราจะยังไม่มีบัญชีของทาง Adobe ID ในตอนนี้) ให้มองหาคำว่า ‘Get an Adobe ID’ เราก็จะได้เข้าสู่กระบวนการสมัครบัญชีต่อไป
ทุกอย่างเริ่มต้นที่ https://www.adobe.com
คลิกที่ Get an Adobe ID เพื่อเข้าสู่กระบวนการสมัคร
ให้ทำการกรอกข้อมูลตั้งแต่ ชื่อต้น (First Name), นามสกุล (Last Name), ที่อยู่อีเมล์ (Email Address) และรหัสผ่าน (*สำหรับรหัสผ่านจะต้องประกอบไปด้วยอักษรพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่และตัวเล็ก อีกทั้งต้องไม่น้อยกว่า 8 ตัว) จากนั้นทำเครื่องหมายถูกที่ Please contact me via email. แล้วกด Sign up จะมีจดหมายจาก Adobe ส่งไปให้เราทางอีเมล์ที่ได้ลงไว้ตอนสมัครเพื่อยืนยันตัวตน
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
สิ่งที่ได้จากการใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเดียวไปสักระยะจะส่งผลต่อช่างภาพมือใหม่เพื่อฝึกฝนความอดทนและทลายขีดจำกัดของเลนส์ตัวนั้นได้อย่างไร เราจะได้เจาะลึกถึงการเติบโตด้วยข้อจำกัดเหล่านี้กัน
หลายครั้งที่คุณสมบัติปัญญาประดิษฐ์อย่าง Denoise ปิดกั้นหนทางลดน้อยส์เกินไป ถึงเวลาแล้วที่เราจะลดน้อยส์ด้วยธีที่ละเอียดมากกว่าอย่าง Manual Noise Reduction
ร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อผู้ก่อตั้ง ‘Dozzo Flamenco’ ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์สื่อการสอนและเทรนนิ่งคลาสระดับคุณภาพเท่านั้น
ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ
เรื่องของคู่สีรายล้อมรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา และ ‘คู่สีตรงข้าม’ (Complementary Colors) ก็จัดว่าเป็นการเข้าคู่ที่รุนแรงและทรงพลังอย่างมาก หากจะหยิบมาเพื่อใช้งานต้องเรียนรู้และเข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบบางประการจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
