เคยไหมเวลาถ่ายภาพออกมาแล้วมีข้อผิดพลาดต่างๆมากมายเช่น ภาพมืดเกินไป ภาพเอียง หน้าตัวแบบมืด หรือแม้กระทั้งเห็นสิ่งสกปรกตามซอกฟัน ดังนั้นการเข้าใจวิธีการใช้โปรแกรมต่างๆในแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นจึงสำคัญมาก แถมยังช่วยให้เราสร้างความโดดเด่นให้แก่ภาพถ่ายของเราได้อีกด้วยครับ
โปรแกรมที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ Adobe Lightroom หรือเรียกกันติดปากว่า Lightroom เป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้ภาพถ่ายของเรามีความสวยงามมากยิ่งขึ้นรวมถึงขจัดข้อผิดพลาดต่างๆของภาพถ่ายได้อีกด้วย แต่การแต่งภาพต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจตั้งแต่การบริหารจัดการไฟล์ภาพ การตกแต่งภาพ รวมถึงการส่งออกภาพให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน
ในบทความนี้ผมจะพูดถึงเรื่องการตกแต่งภาพเบื้องต้นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่มีความสนใจที่จะตกแต่งภาพถ่ายของตนให้สวยงามยิ่งขึ้น หัวข้อที่ยกมาเขียนจะเป็นหัวข้อพื้นฐานที่มีสำคัญแต่ยังมีหัวข้อยิบย่อยอีกมากมายที่สำคัญไม่แพ้กันแต่ต้องใช้เวลาในการอธิบายมาก จึงจะขอยกไว้เขียนในครั้งต่อๆไป
ก่อนเริ่ม แต่งภาพ Lightroom ควรทำความรู้จักกับระบบนำเข้าไฟล์ก่อน
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นแต่งภาพ เราควรเรียนรู้การนำเข้าไฟล์ภาพจากกล้องไปยังโปรแกรมก่อนจริงไหม? เรื่องง่ายๆแบบนี้ทำไมต้องเรียนกันอีกละ เพราะหากเราไม่ทราบถึงการนำเข้าภาพและการจัดระเบียบแล้ววันหนึ่งเรามีไฟล์ภาพเพิ่มมากขึ้นเป็นหมื่นๆภาพก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
แค็ตตาล็อก (Catalogs)
เป็นสิ่งที่จะถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อเริ่มใช้โปรแกรม โดยแค็ตตาล็อกจะเก็บข้อมูลต่างๆเช่น ตำแหน่งที่เราเก็บรูปภาพ ข้อมูลตัวอย่างรูปภาพ รวมถึงข้อมูลการแก้ไขภาพทีเราเคยทำไว้
โฟลเดอร์ (Folder) หรือแฟ้มเก็บภา
เปรียบเสมือนกับกล่องเก็บภาพที่เราสามารถนำเข้าสู่โปรแกรมได้โดยตรงหรือสามารถย้ายภาพใหม่ๆเข้าไปยังโฟลเดอร์ที่เคยนำเข้าไปยังโปรแกรมแล้วก็ได้
จริงๆในการนำภาพเข้า Lightroom มีอะไรอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Collection ในรูปแบบต่างๆที่จะช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการไฟล์ภาพได้อย่างเป็นระบบสามารถดูได้จากวิดีโอด้านล่างนี้ครับ
แก้ไขภาพให้ตรงกับสีจริง
ก่อนที่จะเริ่มตกแต่งภาพเราจะต้องเข้าใจก่อนว่าภาพคือการบันทึกแสงที่ตกกระทบลงบนวัตถุนั้น หากแสงที่มีสีส้มตกกระทบวัตถุสีขาวจะทำให้วัตถุนั้นมีสีส้มปนอยู่ด้วย พอจะนึกภาพออกไหมครับ?
ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเราถ่ายภาพที่ร้านอาหารที่มักจะประดับไฟสีเหลือง หรือ งานแสดงโชว์ที่มักจะมีไฟสีต่างๆคอยสร้างบรรยากาศในงาน ภาพที่เราถ่ายออกมามักมีสีที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงเช่น จานอาหารที่ควรจะเป็นสีขาวกลับมีสีเหลืองเพราะไฟในร้านอาหาร หรือสีผิวของคนที่ควรจะมีสีส้มผสมกับแดง กลับมีสีอื่นๆปนอยู่ด้วยเนื่องจากไฟที่กระทบตัวแบบ
การปรับแก้
เครื่องมือ White Balance ใน Lightroom (ที่เหมือนเป็นหลอดหยด) เป็นเครื่องมือที่จะช่วยบอกเจ้า Lightroom ว่าในภาพถ่าย ตรงไหนที่ควรจะเป็นสีขาวจริงๆ ส่วนวิธีใช้ก็ง่ายมากเพียงใช้เครื่องมือดังกล่าวเลือกไปยังที่ที่วัตถุควรจะเป็นสีขาว (เช่น จานอาหาร กระดาษขาว หรือเสื้อสีขาว) เพียงเท่านี้ภาพของเราก็จะมีสีที่ถูกต้องแล้ว ง่ายใช่ไหมครับ?
ในบางครั้งแสงที่ตกกระทบลงกับตัววัตถุที่เราถ่ายภาพมาอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องปรับแก้เสมอไป เช่น ภาพงานแสดงโชว์ที่มักจะสร้างบรรยากาศโดยการใส่แสงไฟสีต่างๆไปยังตัวแบบ หรือภาพที่เราจงใจให้แสงเหล่านั้นเป็นสิ่งสื่ออารมณ์ เช่น ภาพหมู่บ้านตอนพระอาทิตย์ตก
กำจัดสิ่งรบกวนในภาพออกไป
ภาพที่เราถ่ายมามักจะมีสิ่งที่เราไม่ต้องการติดมาด้วยเช่น ฝุ่นต่างๆบนหน้าเลนส์และเซนเซอร์ของกล้อง สิวบนใบหน้าบุคคลที่เด่นชัด หรือเศษสิ่งสกปรกต่างๆที่จะทำให้ภาพของเราดูมีสิ่งรบกวนสายตา ใน Lightroom จะมีเครื่องมือที่ชื่อว่า Spot Removal Toolในการช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้
ลบฝุ่นและสิ่งที่เราไม่ต้องการออกจากภาพ
การลบฝุ่นในภาพสามารถทำได้ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Spot Removal Toolใน Lightroom นำมาลบบริเวณที่เราต้องการ โดย Lightroom จะทำการคำนวนว่าควรจะเอาพื้นที่ไหนในภาพมาทดแทนโดยอ้างอิงจากบริเวณรอบๆสิ่งที่เรานำออก
นอกจากการนำเครื่องมือดังกล่าวไปลบฝุ่นและสิ่งรบกวนสายตาให้ออกไปจากภาพได้แล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการลดริ้วรอยหรือสิวออกจากหน้าของภาพถ่ายบุคคลได้อีกด้วยนะ
สามารถดูวิธีการใช้งานได้จากวิดีโอด้านล่างเลยจ้า
จัดองค์ประกอบของภาพใหม่
บ่อยครั้งที่ระหว่างถ่ายภาพมาอาจจะไม่สามารถจัดองค์ประกอบของภาพได้ดีมากนัก รวมถึงการใช้เลนส์บางชนิดเช่นเลนส์มุมกว้างส่งผลให้ภาพถ่ายของเรามีมิติผิดเพี้ยนไป (ให้เราลองนึกภาพของตึกต่างๆที่ถ่ายภาพออกมาแล้วเสาเอียง) เราสามารถใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Crop tool และ Guided Upright มาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
Crop tool
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถแก้ไของค์ประกอบของภาพให้แม่นยำขึ้น แถมยังสามารถตัดภาพหรือหมุนภาพตามที่เราต้องการได้อีกด้วย
Guided Upright
เหมาะสำหรับในกรณีที่เราใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายภาพสิ่งที่ควรจะเป็นแนวตรงเช่นตึกต่างๆ แต่ภาพที่ออกมาทำให้เสาหรือส่วนต่างๆที่ควรจะเป็นเส้นตรงกลับบิดเบี้ยว ดังนั้นการใช้เครื่องมือ Guided Upright อย่างถูกต้องจะช่วยให้ภาพของเรามีความสมบูรณ์มากขึ้น
สำหรับเลนส์บางชนิดเช่นเลนส์ตาปลา (Fisheye Lens) หรือเลนส์มุมกว้างบางชนิดเราก็ไม่จำเป็นจะต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นก็ได้ เพราะสามารถใช้ความบิดเบี้ยวเหล่านั้นสร้างความน่าสนใจให้แก่ภาพถ่ายของเรา
แก้ไขภาพที่มืดหรือสว่างจนเกินไป
เชื่อหรือไม่ว่าภาพที่เราถ่ายบางภาพต้องมีภาพประเภทที่มืดเกินไปหรือสว่างเกินไปติดมาบ้างใช่ไหม? ยิ่งถ้าภาพนั้นๆเป็นภาพที่บันทึกช่วงเวลาจังหวะที่สำคัญหรือเป็นภาพที่เราชอบมากๆ คงจะดีใช่ไหม? ถ้าเราจะสามารถแก้ไขปัญหาาดังกล่าวได้แค่ไหนที่เรียกว่ามืดเกินไปหรือสว่างเกินไป? โดยปกติหลายๆคนอาจจะตัดสินว่าภาพไหนมืดเกินไปหรือสว่างเกินไปจากความชอบส่วนตัวและด้วยสายตาของเราเอง จริงๆก็ไม่ผิดหรอกนะแต่เราขอแนะนำข้อสังเกตง่ายๆโดยพิจารณาถึงรายละเอียดของภาพถ่ายของเราว่ามีอะไรสว่างไปหรือมืดเกินไปจนสูญเสียรายละเอียดในภาพสิ่งที่เราต้องการจะสื่อในภาพ จากภาพตัวอย่างข้างต้นพอจะสังเกตได้แล้วใช่ไหมละ แต่การสังเกตเรื่องความมืดหรือสว่างเกินไปของภาพนั้นควรจะอาศัยความรู้ความเข้าใจเรื่อง ฮิสโตแกรมของภาพถ่าย ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะอธิบายในบทความต่อๆไปครับพระเอกในการแต่งภาพ Lightroom
ปกติในการแต่งภาพ Lightroom มักจะมีค่าการปรับแต่งที่ถือว่าเป็นพระเอกของการแต่งภาพหลักๆ อยู่ 5 ค่าด้วยกันได้แก่ Exposure, Highlight, Shadows, White, Black ถือเป็นค่าที่เราจะได้ใช้บ่อยในการแต่งภาพ โดยแต่ละค่าก็จะส่งผลแก่ภาพแตกต่างกันไป ผมแนะนำให้คุณลองปรับแต่งทีละค่าแล้วลองสังเกตว่าแต่ละค่าที่เราเพิ่มหรือลดส่งผลต่อภาพอย่างไรและส่งผลบริเวณไหนบ้างTone Curve ก็ช่วยได้นะ
นอกเหนือจากค่าการปรับแต่ง 5 ค่าข้างต้น เรายังสามารถใช้ Tone Curve ในการเพิ่มหรือลดความสว่างและความมืดให้กับภาพได้อีกด้วยนะ โดย Tone curve จะมีลักษณะเป็นเหมือนกราฟอยู่ที่แถบการปรับแต่งของโปรแกรม Lightroom ส่วนการใช้งานก็ไม่ยากนักเพียงแค่ดึงเส้นกราฟที่ปกติจะอยู่ในแนวทแยง ซ้ายล่างไปยังขวาบน ให้สูงขึ้นหรือดลดลงตามแต่เราต้องการ เพียงเท่านี้เราก็สามารถแต่งภาพ Lightroom ของเราได้อย่างที่ต้องการแล้ว Tone Curve มักจะถูกนำไปประยุกต์ใช้ในการทำโทนภาพใน Lightroom แนวต่างๆเช่น โทนมืด โทนฟิล์มเพิ่มจุดเด่นให้แก่ภาพถ่ายของเรา
Radial Filter
เป็นอีกเครื่องมือที่ใช้ในการ แต่งภาพ Lightroomโดยเครื่องมือนี้ช่วยให้เรากำหนดจุดบนภาพถ่ายว่าจุดไหนที่เป็นจุดเด่นของภาพ การใช้งานก็ง่ายมากเพียงแค่ลากวงกลมล้อมรอบสิ่งที่เราต้องการจะเน้นและปรับค่าความสว่างของพื้นที่รอบๆให้น้อยลง เพียงเท่านี้สิ่งที่อยู่ใน Radial filter ก็จะดูเด่นขึ้นแล้วละ หรือลองดูวิดีโอการสอนจากเราก็ได้ครับลด Noise ในภาพถ่าย
บางครั้งเวลาเราถ่ายภาพในที่แสงน้อยโดยอาศัยการดันค่าความไวแสง(ISO) ให้สูงขึ้นจะทำให้ภายถ่ายของเรามีสิ่งรบกวนที่มีลักษณะเหมือนเม็ดกลมๆในภาพซึ่งเกิดจากการเร่งให้เซนเซอร์รับภาพของกล้องรับแสงได้ดีขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไปครับเพราะใน Lightroom มีเครื่องมือที่ชื่อว่า Noise Reduction ที่จะช่วยลดสิ่งรบกวนเหล่านั้นได้ แต่ต้องระมัดระวังการใช้งานด้วยนะครับ หากใช้มากเกินไปอาจจะทำให้ภาพถ่ายของเรามีลักษณะไม่ชัดและเป็นวุ้นๆได้ สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่องนี้ได้ที่ การแต่งภาพ Lightroom กลางคืนอย่าลืมส่งออกภาพให้ถูกต้อง
หลายๆคนคงเคยเจอปัญหาที่ว่าเมื่อแต่งภาพเสร็จและเผยแพร่บน Social Media ต่างๆโดยเฉพาะ Facebook แต่ภาพกลับเบลอ คงจะหงุดหงิดไม่น้อยกันเลยใช่ไหม? ไม่เป็นไรครับ เพราะคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเผยแพร่ภาพไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตามหรือแม้กระทั้งการพิมพ์ภาพนั้นต้องจัดการภาพของเราให้เหมาะสม ผมหมายถึงวิธีที่เรียกกันว่า ปรับคม นั้นเอง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลงภาพในเฟสยังไงให้ชัด หรือ ความคมชัดของภาพแต่งภาพมามากมายแต่สุดท้ายตกม้าตายตอนส่งออกภาพ
สรุป
การแต่งภาพโดย Lightroom คือการแก้ไขข้อบกพร่องของภาพที่เราถ่ายมา ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในการปรับแต่งค่าต่างๆและการมองเห็นว่าภาพถ่ายของเรามีปัญหาและข้อบกพร่องอย่างไรบ้างจึงจะจำมาถึงการแก้ปัญหาที่ตรงจุด
สุดท้ายแล้วเราไม่สามารถไปบอกว่าภาพถ่ายของแต่ละคนนั้นผิดหรือถูกโดยอ้างอิงจากที่ใดที่หนึ่ง สำหรับตัวผมเองขอแค่ให้เราสามารถถ่ายภาพและตกแต่งภาพให้ได้ตามที่เราต้องการก็เพียงพอแล้วครับ
ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ