‘ระบบของการถ่ายภาพ’ ในความหมายของ DozzDIY ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการทำหลักสูตรถ่ายภาพขึ้นมานั้น หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีความหมายและสำคัญอย่างไร บทความนี้ได้อธิบายถึงหลักการและแนวทางที่จะช่วยให้การเรียนรู้ของมือใหม่ไปถึงฝั่งฝันได้เร็วมากยิ่งขึ้น

ระบบของการถ่ายภาพ หมายถึง กลุ่มของเนื้อหาการถ่ายภาพ ที่มีความเกี่ยวข้องสอดคล้องกันด้วยหลักการธรรมชาติของการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์หรือศาสตร์อื่นๆย่อมต้องมีหลักและแบบแผนในการเรียนรู้อย่างเป็นขั้นตอน สำหรับ DozzDIY เราได้แยกออกเป็นสองกลุ่มสาระการเรียนรู้ใหญ่ๆด้วยกัน ได้แก่ ภาคการควบคุมอุปกรณ์ และ ภาคทฤษฎีจิตวิทยามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ โดยภาคการตกแต่งภาพถ่ายจะแยกออกมาอีกส่วนในกรณีพิเศษ รายละเอียดมีดังนี้

1. ภาคการควบคุมอุปกรณ์ 

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง : Handheld Mastery, Newbie Quickstart, Mobile Photography
ความหมาย : การเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์คือความจำเป็นอย่างยิ่งของผู้ที่เรียนที่ต้องทราบถึงข้อจำกัดว่าสิ่งที่ตัวเองควบคุมอยู่นั้นทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือมีโครงสร้างและรูปแบบการทำงานอย่างไร เช่น การถ่ายภาพผู้เรียนต้องรู้จักกล้องถ่ายภาพที่ตัวเองใช้อยู่ให้มากที่สุดก่อน ไม่ว่าจะเป็นขนาดของเซ็นเซอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานต้องมีขนาดประมาณไหน, การวัดแสงคืออะไร, สมดุลแสงขาวคืออะไร, ปุ่มปรับรูรับแสง-ความเร็วชัตเตอร์-ความไวแสงอยู่ตรงไหนและสัมพันธ์กันอย่างไร หรือ เลนส์ที่ตัวเองใช้เป็นเลนส์ประเภทใดและใช้งานในลักษณะใดได้ดีที่สุด เป็นต้น

จะใช้กล้องราคาหลักหมื่นหรือหลักล้านอย่างในภาพก็ต้องเรียนรู้วิธีการควบคุมเช่นเดียวกัน
เพื่อความคล่องตัวและเตรียมพร้อมเมื่อสถานการณ์จำเป็นมาถึง

ถ้าผู้เรียนมีความเข้าใจในอุปกรณ์อย่างช่ำชองจะทำให้เกิดความเร็วต่อสถานการณ์นั้นๆสูงขึ้นมากเทียบกับคนที่ไม่รู้ ยกตัวอย่างเช่น ช่างภาพ A มีความเข้าใจในการใช้ ISO ต่อสถานการณ์แสงที่เป็นไปได้ในการบันทึกภาพอย่างดี เทียบกับช่างภาพ B ที่เปิดโหมด ISO ปรับเองอัตโนมัติตลอด โอกาสที่ช่างภาพ A จะได้ภาพที่มีคุณภาพสูงกว่าช่างภาพ B จึงมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

รู้ว่าปุ่มอะไรอยู่ตรงไหนแล้วก็ยังไม่พอ ยังต้องรู้ความสัมพันธ์ของค่าต่างๆและตัวแปร
ในการถ่ายภาพเป็นอย่างดีอีกด้วยจึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ยากๆได้อยู่หมัด

2. ภาคทฤษฎีและจิตวิทยามนุษย์

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง : The Art of Composition
ความหมาย : การเรียนรู้พฤติกรรมของภาพถ่ายที่ส่งผลต่อปฏิกิริยาโต้ตอบของผู้รับชมท่ามกลางองค์ความรู้ของวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ เรียนรู้ความงามและความดีของงานศิลปะและพฤติกรรมมนุษย์ต่อรูปแบบการมองเห็นสิ่งต่างๆบนโลก รวมไปถึงการศึกษาความเป็นไปของธรรมชาติที่ช่วยให้งานถ่ายภาพมีอารมณ์โน้มน้าวไปสู่จุดๆหนึ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมของภาพถ่าย การเล่นกับสีสันรูปทรงในภาพ จุดมุ่งหมายก็เพื่อพัฒนาภาพถ่ายเดิมให้ก้าวกระโดดออกจากขอบเขตของการเป็นนักถ่ายภาพทั่วไป หรืออาจจะไม่ได้ไกลจากจุดเดิมเลยแต่ช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นคงกับความคิดของตัวเองมากยิ่งขึ้น

สีสัน, การโพสท่า และอารมณ์ภาพต่างเป็นองค์ประกอบที่จำเป็น

สัดส่วนของใบหน้ามีผลต่อความงามอย่างไร

ถ้าประธานของภาพอยู่ทางขวา ทำไมต้องเว้นพื้นที่ทางซ้าย
นั่นก็เป็นแค่เหตุผลเล็กๆข้อหนึ่งของการจัดองค์ประกอบภาพ

ภาคการตกแต่งภาพถ่าย

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง : Lightroom Reverse-Learning Course, Lightroom Master Class, Photoshop CC for Photographer, Photoshop CC for Pro-Retoucher, Portraiture, และอื่นๆ
ความหมาย : การเรียนรู้เครื่องมือโปรแกรมและแอปพลิเคชันเพื่อการแก้ไขจุดบกพร่องของภาพถ่ายให้เป็นไปตามต้องการ จากผู้พัฒนาหลายค่ายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมจากฝั่งของ Adobe, PhaseOne, Nikon, Iridient, และอื่นๆ

เนื้อหาในส่วนนี้อาจข้องเกี่ยวกับการเรียนรู้สองภาคส่วนก่อนหน้า นั่นคือการเรียนรู้เรื่องอุปกรณ์และนำความรู้ในภาคทฤษฎีมาปรับใช้ในการตกแต่งภาพถ่ายเพิ่มเติมได้ด้วย

เหตุผลในการตกแต่งภาพถ่ายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป
บางคนเพื่อแก้ไขความไม่สมบูรณ์ บางคนต้องการเติมแต่งจินตนาการ
แต่ถ้าต้องการให้ภาพถ่ายดิจิตอลดีที่สุด ยังไงก็ต้องแต่งภาพ

อย่าให้สิ่งที่เป็นความรู้แต่ไม่มีความจำเป็นคอยฉุดรั้งความก้าวหน้า

ต่อให้มีอายุยืนยาวสักร้อยปีพันปี ก็ไม่มีวันที่จะเรียนรู้ศาสตร์ที่มีบนโลกใบนี้ได้ทุกแขนง ในเรื่องขององค์ความรู้ด้านการถ่ายภาพก็เช่นเดียวกัน ระหว่างการศึกษาจะพบว่ามีข้อมูลให้ศึกษาอยู่เต็มไปหมด จนมีหลายคนเสียเวลาไปมากถึงเกือบสิบปีแต่ก็ไม่มีพัฒนาการด้านการถ่ายภาพมากขึ้นเลยแม้แต่น้อย สิ่งสำคัญที่สุดคือการโฟกัสถึงสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ อาจจะจดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเราต้องการความก้าวหน้าไปถึงจุดไหน และมีอะไรยังไม่ได้ทำอีกบ้าง

ต้องคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะศึกษาเนื้อหาที่อาจจะไม่ได้จำเป็นต้องใช้ในช่วงนี้
เพราะถึงแม้เนื้อหานั้นจะมีประโยชน์แต่ก็อาจขัดขวางเวลาศึกษาสิ่งที่จำเป็นกว่า

ถ้าให้เลือกระหว่างการเป็นคนที่สามารถตอบคำถามเทคโนโลยีต่างๆได้มากมายในวงช่างภาพด้วยกัน แต่ไม่สามารถถ่ายทอดชิ้นงานออกมาได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย กับมีความรู้ในส่วนต่างๆพอประมาณ แต่ใช้เวลากับการเรียนรู้เพื่อพัฒนางานของตัวเองอย่างเต็มที่ นั่นก็ถือเป็นทางเลือกที่ไม่มีใครไปบังคับว่าเราจะยืนอยู่ในจุดไหน

ความรู้ก็เหมือนใบของต้นโพธิ์ เราไม่มีทางเก็บได้หมดทั้งต้น แต่จงเลือกเอาใบที่จำเป็นเท่านั้น

สิ่งที่ต้องทำสำหรับคนที่เริ่มจากศูนย์ในการถ่ายภาพทุกคนคือศึกษาสิ่งที่จำเป็นและแยกออกเป็นกลุ่มๆว่าตัวเองยังอ่อนในด้านใด และจะพัฒนาให้มีความก้าวหน้าขึ้นได้อย่างไรด้วยวิธีการใด พยายามจำกัดวงความรู้ให้เป็นขนาดที่ต้องการเพื่อยึดเป็นหลักในการถ่ายภาพให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยขยับขยายความสามารถไปสู่ความรู้ในด้านต่างๆในที่สุด