คลื่นสัญญาณรบกวนในภาพถ่ายดิจิตอล

คลื่นสัญญาณรบกวน หรือ น้อยส์ (Noise) เกิดขึ้นพร้อมๆกับยุคดิจิตอลที่ใช้กระแสไฟฟ้าเป็นเครื่องมือในการปฏิวัติทุกสิ่ง น้อยส์เกิดขึ้นได้ทั้งจากสภาวะแวดล้อมภายนอกและมนุษย์สร้างขึ้นเอง หน้าที่หลักคือการทำให้ระบบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นมีคุณภาพลดลง ดังปัญหาที่เราเห็นได้ในทุกวัน เช่น ความเร็วของสัญญาณอินเตอร์เน็ตต่อระยะทาง, การได้ยินเสียงซ่าเวลามีการบันทึกเสียงในห้องอัด เป็นต้น


เนื้อหาสำหรับผู้สนับสนุน
สนับสนุนเราเพื่อเข้าชมทุกเนื้อหา
Facebook Page : DozzDIY

ภาพที่มีคลื่นสัญญาณรบกวนปรากฏจำนวนมาก
ร้านอาหารแยงซีเจียง, เชียงใหม่

‘น้อยส์ดิจิตอลในภาพถ่ายเกิดจากการรบกวนของกระแสไฟฟ้าซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเก็บภาพ ทำให้เม็ดสีที่ควรจะถูกต้องนั้นเรียงตัวผิดตำแหน่ง ผลคือภาพถ่ายนั้นจะมีจุดเม็ดสีเล็กๆอยูในภาพถ่าย ขาดความคมชัด และสูญเสียคุณภาพ

เพราะกระบวนการของกล้องดิจิตอลหลังกดชัตเตอร์นั้นมีเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกไว้รับภาพ ประกอบไปด้วยจุดพิกเซลหลายล้านจุดเพื่อใช้รับแสง ผลรวมจากการเรียงตัวพิกเซลนี้เองที่ทำให้เกิดภาพ

เรายังอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีการพัฒนาเซ็นเซอร์ไปไม่ถึงขีดสุด น้อยส์จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในที่ๆมีแสงจ้าหรือมืด เพียงแต่การถ่ายภาพในที่แสงสว่างมากนั้นปริมาณแสงที่เข้าสู่จอเซ็นเซอร์รับภาพจะเข้มกว่าจุดน้อยส์ทำให้มองไม่เห็นเด่นชัด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมน้อยส์จึงมักเกิดขึ้นในที่มืด

น้อยส์เกิดได้ง่ายมากคือเวลากลางคืนหรือที่มืด

รายละเอียดที่ไม่เรียบเนียนเมื่อซูมใกล้ๆ

สาเหตุหลักที่ทำให้ภาพถ่ายมีคุณภาพที่แย่ลงเพราะน้อยส์

เร่งปฏิกิริยาการรับแสงให้กับเซ็นเซอร์โดยไม่จำเป็น : เชื่อเถอะว่ายังมีช่างภาพที่ถ่ายงานบวชกลางแจ้งด้วย ISO สูงๆ การทำเช่นนี้ส่งผลให้เซลรับภาพเกิดความร้อนและประจุไฟฟ้าขึ้นสูงกว่าปกติไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเฉพาะที่มืด ถ้าปรับค่าเหล่านี้ไว้สูงคุณไม่มีทางพลาดโอกาสที่จะได้พบกับน้อยส์

การลากชัตเตอร์ : หรือที่เข้าใจกันคือการถ่ายภาพแบบ Long Exposure โดยการถ่ายภาพด้วยวิธีดังกล่าวจะทำให้รูรับแสงที่กล้องเปิดเอาไว้นานตามที่ตั้งค่าเอาไว้ แม้ว่าจะไม่เป็นการเร่งปฏิกิริยาการรับภาพแต่ก็ยังเกิดน้อยส์ได้อยู่ดีเพราะความร้อนที่เปิดกล้องไว้นานนั่นเอง (หน่วยประมวลผลของกล้องวิเคราะห์แสงผิดพลาด)

อยู่ในที่ๆมีแสงน้อย : เมื่อคุณอยู่ในที่มืด ความเข้มแสงแสงที่วัดได้ในแต่ละพิกเซลของเซนเซอร์ก็น้อยลงไปด้วย ทำให้น้อยส์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้วมองเห็นได้ง่าย

ตัวแปรหลักที่สำคัญในการก่อให้เกิดปัญหาดังที่ว่ามานั้นมีอยู่ด้วยกันสองปัจจัย คือ ‘ความไวต่อแสง’ และ ‘ความเร็วชัตเตอร์’ สองตัวแปรนี้ทำให้เกิดคลื่นสัญญาณรบกวนภาพที่ต่างกัน หากเป็นการเร่งค่าความไวต่อแสง เซ็นเซอร์จะถูกกระตุ้นให้รับแสงได้มากขึ้นและตีความเม็ดสีผิดพลาด (ปัจจัยภายใน) แต่ถ้าหากเป็นการถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำน้อยส์ประเภทจุดแสงมากกว่าแทน ถ้ามีเวลาแนะนำให้ลองทดสอบภาพสองแบบนี้ดู

กล้องถ่ายภาพบางรุ่นมีซอฟท์แวร์ในการลดน้อยส์ติดมาด้วย (Noise Reduction Software) ซอฟท์แวร์เหล่านี้มีหน้าที่วิเคราะห์เม็ดสีที่ผิดปกติและจัดการ ทั้งนี้จะทำงานได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับความชาญฉลาดของโปรแกรม เช่นการวิเคราะห์เม็ดสีจากพิกเซลภาพโดยรอบและแทนที่จุดสีที่เพี้ยนลงไป (ส่งผลให้ความคมชัดลดลง)

ปลั๊กอิน Dfine2 จาก Google Nik Collection สำหรับจัดการน้อยส์
(ปัจจุบันเป็น Nik by DxO)

แต่ถ้ากล้องถ่ายภาพไม่มีซอฟท์แวร์ดังกล่าวก็ไม่เป็นปัญหา มีผู้พัฒนามากมายที่เล็งเห็นความสำคัญนี้รวมตัวกันขึ้นเพื่อพัฒนาซอฟท์แวร์อย่างจริงๆขึ้นมามากมายทำให้ความก้าวหน้าในการลดน้อยส์ไปได้ไกลกว่าเดิมมาก เช่น dFine, Noise Ninja เป็นต้น

กล้องถ่ายภาพดิจิตอลในปัจจุบันนี้มีความสามารถที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราเก็บภาพที่มีน้อยส์เพียงน้อยนิดที่สภาวะแสงต่ำ ถ้าบวกกับความสามารถของช่างภาพมืออาชีพที่เข้าใจธรรมชาติและเลือกใช้วิธีการเก็บภาพได้อย่างถูกต้อง อย่างไรเสียน้อยส์ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเหมือนก่อนอีกแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้องในหมวดนี้
เกรนกับความคมชัดของภาพถ่าย

ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ

ฝึกฝนนิสัยถ่ายภาพด้วยเลนส์ไพร์ม

สิ่งที่ได้จากการใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเดียวไปสักระยะจะส่งผลต่อช่างภาพมือใหม่เพื่อฝึกฝนความอดทนและทลายขีดจำกัดของเลนส์ตัวนั้นได้อย่างไร เราจะได้เจาะลึกถึงการเติบโตด้วยข้อจำกัดเหล่านี้กัน

เราจะตรวจสอบจุดล้นของภาพไปทำไม?

อุปกรณ์รับชมภาพถ่ายไม่ว่าจะเป็นหน้าจอหรือกระดาษต่างก็มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดสีสันรวมไปถึงจุดสว่างที่สุดไปยังจุดมืดที่สุดในภาพแตกต่างกัน การแสวงหาความถูกต้องที่สุดในการมองเห็นแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่หาความเป้นมาตรฐานได้ยาก แต่เราก็ยังพอรับรู้ได้ว่าอะไรคือขีดสุดของรายละเอียดที่กำลังปรากฏในขณะนั้นก่อนจะนำไปสู่อุปกรณืหรือแหล่งเผยแพร่อื่น ดังที่เรียกว่า จุดล้นของภาพ หรือ Clipping Point ใน Adobe Camera RAW นี้

ร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อผู้ก่อตั้ง ‘Dozzo Flamenco’ ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์สื่อการสอนและเทรนนิ่งคลาสระดับคุณภาพเท่านั้น

บทความล่าสุด >>
เกรนกับความคมชัดของภาพถ่าย

ถ้าเพิ่มเกรนน้อยเกินไปภาพก็ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่าง แต่ถ้าใส่มากเกินไปภาพก็แข็งกระด้าง ดังนั้นควรมีเกรนในปริมาณเท่าใดในภาพจึงจะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น และใช่ เรากำลังพูดถึงเกรนในมุมที่เกี่ยวข้องกับความคมชัดของภาพถ่ายครับ

การใช้งานคู่สีตรงข้าม

เรื่องของคู่สีรายล้อมรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา และ ‘คู่สีตรงข้าม’ (Complementary Colors) ก็จัดว่าเป็นการเข้าคู่ที่รุนแรงและทรงพลังอย่างมาก หากจะหยิบมาเพื่อใช้งานต้องเรียนรู้และเข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงผลลัพธ์เชิงลบบางประการจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า