การแก้ไขภาพถ่ายดิจิตอลที่เกี่ยวข้องกับขนาดส่งผลให้เกิดความเสียหายระดับพิกเซลของภาพนั้นอยู่ตลอดเวลา ประเด็นที่เรากำลังพูดกันในบทเรียนนี้คือ “จะลดความสูญเสียดังกล่าวเมื่อต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดได้อย่างไร” โดยอธิบายวิธีการต่างๆและความเหมาะสมเพื่อที่ผู้ใช้จะได้นำไปปรับใช้ได้อย่างถูกต้อง
คลิปวิดีโอและหน้าสารบัญจะแสดงผลต่อผู้เรียนของ DozzDIY เท่านั้น.. ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 08-8753-5742, 08-7730-0981 และ 08-0782-4425 ตั้งแต่เวลา 6:00 – 22:00 น ทุกวันไม่มีวันหยุด Facebook Page : ‘DozzDIY‘ และ Line Official : @DozzDIY [เรียนเฉพาะหลักสูตรนี้][เป็นสมาชิก VIP]
การเรียกใช้กระบวนการจัดเรียงพิกเซลภาพ
กระบวนการในการจัดเรียงพิกเซลภาพใหม่เมื่อต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดจะอยู่ที่เดียวกันกับการเรียกกล่องเครื่องมือย่อขนาดภาพ (Image Size) มีคีย์ลัดว่า Control + Alt + I [win]/Command + Opt I [mac] โดยที่ตัวเลือกทั้งหมดมีลักษณะเป็น Dropdown Menu ทางด้านล่าง ในเวอร์ชั่น CC 2015.5 มีอยู่ 7 ตัวเลือกด้วยกัน ได้แก่ Automatic, Preserve Details, Bicubic Smoother, Bicubic Sharper, Bicubic, Nearest Neighbor และ Bilinear
กระบวนการจัดเรียงพิกเซลอยู่ที่เดียวกันกับกล่องปรับขนาดภาพ
ประเภทของการทดแทนพิกเซลที่มีให้เลือกใช้ใน Photoshop
ประเภทขยายภาพ
Preserve Details (Enlargement)
คุณสมบัติในการขยายภาพแบบใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาใน Photoshop CC เวอร์ชั่น 14.1 ถือได้ว่าเป็นของเล่นใหม่ที่โดดเด่นเฉพาะ Photoshop เลยทีเดียว คุณสมบัติดังกล่าวนี้เหมาะสมกับภาพที่มีความละเอียดต่ำและต้องการขยายใหญ่ขึ้นเช่นภาพโปสเตอร์ ผลกระทบของตัวเลือกนี้คือความเปรียบต่างที่เพิ่มขึ้นของสีส่วนกลาง (Clarity) รายละเอียดและความคมชัดจะรักษาไว้ได้ดีแต่จะต้องมีการปรับลดอาการคลื่นรบกวนในภาพเพิ่มเติม
Bicubic Smoother (Enlargement)
เน้นความเรียบเนียนและความนุ่มของภาพโดยส่วนมาก เนื่องจากการขยายภาพจะทำให้พิกเซลแตกออกและมองเห็นความแตกต่างของสีในแต่ละจุดได้ แต่ข้อเสียก็มีอยู่บ้างตรงที่ทำให้จุดความคมชัดของภาพหลายจุดเสียหายไป
ประเภทย่อภาพ
Bicubic Sharper (Reduction)
เป็นประเภทที่ไม่ค่อยแนะนำจะให้ใช้นักเนื่องจากจะทำให้ภาพคมเพิ่มซึ่งโดยปกติเรามักจะทำกระบวนการปรับคมอยู่แล้ว ให้ย่อภาพด้วยวิธีการปกติ
ประเภทอื่นๆ
Bicubic (Smooth Gradients)
เหมาะกับภาพถ่ายทุกประเภทและเป็นตัวเลือกที่ควรเลือกใช้หากไม่รู้ว่าจะใช้ Bicubic Smoother หรือ Bicubic Sharper แต่จะประมวลผลช้ากว่าทั้งสองแบบนิดหน่อยเพื่อแลกกับความแม่นยำในการจัดระเบียบพิกเซลใหม่ขึ้นมา
Nearest Neighbor (Hard Edges)
เหมาะกับภาพกราฟฟิกที่มีเส้นสายชัดเจนเพราะตัวเลือกนี้จะทำการเน้นหนักบริเวณขอบภาพเป็นหลัก ทำงานรวดเร็วแต่ไม่ละเอียด ความแม่นยำต่ำและคุณภาพต่ำ
Bilinear
เป็นตัวเลือกแบบให้ผลลัพธ์ของภาพกลางๆไม่ค่อยเป็นที่นิยม กระบวนการทำงานคือโปรแกรมจะวิเคราะห์พิกเซลตัวอย่างขึ้นมาและเทียบกับพิกเซลซ้ายและขวา โดยอาศัยแนวคิดการดุลน้ำหนักภาพและสีสัน
การเพิ่มพิกเซลทดแทนเมื่อขยายขนาด (Enlargement)
ภาพต้นฉบับก่อนการขยายขนาดใหม่
ขยายแบบ Nearest Neighbor จะเน้นทำบริเวณขอบภาพจึงแตกออกเป็นพิกเซลเหลี่ยมๆ
ขยายแบบ Bilinear ภาพดูดีขึ้นและออกฟุ้งๆ
ขยายแบบ Bicubic ดูเหมือนว่ามีรายละเอียดส่วนย่อยได้ดีกว่าการขยายทั้งหมด
การลดจำนวนพิกเซลลงเมื่อย่อขนาด (Reduction)
ภาพต้นฉบับก่อนการย่อขนาด
ย่อด้วยวิธี Bicubic
ย่อด้วยวิธี Bicubic Sharper ซึ่งทำให้คมมากเกินไป
แบบ Nearest Neighbor เหมาะกับการขยายที่มีรูปร่างชัดเจนอย่าง QR โค้ดที่เห็นนี้
กำหนดกระบวนการทดแทนพิกเซลมาตรฐานให้กับภาพ
ไปที่ Photoshop CC > Preferences > General [mac] หรือ File > Preferences > General [win] หรือกดคีย์ Control + K [win]/Command + K [mac] เพื่อเปิดกล่องการตั้งค่าทั่วไปขึ้นมา จากนั้นให้เลือกค่าที่ต้องการใช้เป็นประจำในแบบอัตโนมัติ โดยที่กระบวนการที่เลือกนี้จะปรากฏขึ้นเป็นกระบวนการแรกทุกครั้งเมื่อเรียกใช้
[bsa_pro_ad_space id=10]
[bsa_pro_ad_space id=11]